ปส.แถลงจับ เครือข่ายยานรก ‘ปั้นน้ำเป็นเงิน’ เคยอุ้มหญิงเบี้ยวค่ายาหน้าจวนผู้ว่าฯ

เครือข่ายยานรก / เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์

พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. และเจ้าหน้าที่ ปส.1-4 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญจำนวนหลายคดีได้แก่

คดีแรก จับกุมน.ส.จันทร์เพ็ญ วิเชียรฉาย หรืออินอ่อน อายุ 32 ปี นายชาญยุทธ เนาวบุตร อายุ 37 ปี น.ส.ภัทรรินทร์ หรือเฟรม เพชร์นอก อายุ 23 ปี และนายอิทธิพล ภูนายาว อายุ 35 ปี ผู้ต้องหา กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตน้ำดื่มขายบังหน้า โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่า คดีนี้นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ประสานขอความช่วยเหลือมาทางบช.ปส. ให้เบาะแสของแก็งยาเสพติด จึงได้จัดชุดบก.ปส.2 ออกไปสืบสวนติดตามกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคอีสาน ที่ลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศลาวมาจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลและส่งออกต่างประเทศผ่านภาคใต้ โดยทำธุรกิจน้ำดื่มบังหน้า

ก่อนนำเงินที่ได้จากการกระทำผิด ไปลงทุนทำรีสอร์ทในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นลูกน้องเครือข่าย ได้ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ อุ้มหญิงที่เบี้ยวเงินค่ายาเสพติดไปจากหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ต่อมาภายหลังสามารถจับกุมได้ ทั้งผู้กระทำผิดและผู้ถูกกระทำพร้อมยาบ้าของกลาง 4,000 เม็ด

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ เป็นเงินสดกว่า 2,902,959 บาท บ้านพร้อมที่ดิน 13 หลังรวมกว่า 21,000,000 บาท ทองรูปพรรณโทรศัพท์มือถือรถยนต์และของกลางอื่นอีก รวมทั้งหมด 34.8 ล้านบาท พร้อมขยายผลจับกุมตัวนายภูษิต หรือบิว อินอ่อน หัวหน้าเครือข่าย ซึ่งหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่แนวทางการสืบสวนทราบว่าคนร้ายรายนี้ได้เข้าสู่วงการยาเสพติดตั้งแต่อายุ 17 ปี มาจนถึงปัจจุบัน

ด้านนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การกระทำของกลุ่มค้ายา ที่อุ้ม กลุ่มค้ายาเสพติดที่ไม่จ่ายเงิน หน้า ศาลากลางนั้นเป็นการกระทำที่ถูกเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนสามารถจับกุมได้ โดยได้ขอความช่วยเหลือประสานงานกับปส.เข้าติดตามจนจับกุมเครือข่ายไว้ได้ ส่วนที่มีการโทรศัพท์มาข่มขู่ตอนนั้น เป็นเรื่องจริงว่ามีแก๊งดังกล่าวโทรเข้ามาข่มขู่ แต่ตนไม่อยากนำมาพูดเป็นประเด็น

คดีที่ 2 จับกุมนายสุนทร หรือแต่ง กลิ่นหอม อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมของกลางกัญชา 300 กิโลกรัม รถยนต์บรรทุกเซฟโรเลต และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง จับกุมได้ภายในปั๊มน้ำมันพีทีสาขาปทุมรัตน์ อ.ปทุมรัตน์ จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา

ก่อนเกิดเหตุชุดจับกุมสืบทราบว่า มีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดของนางย้อยไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ลอบนำยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดมุกดาหารมาจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยใช้รถยนต์คันที่ก่อเหตุเป็นพาหนะ จึงวางแผนสกัดจับกุมได้ดังกล่าว เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป

คดีที่ 3 ตรวจยึดวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 45 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 27,900 กรัม ภายหลังรับแจ้งเบาะแสจากเจ้าหน้าที่บริษัทรับ-ส่งพัสดุภัณฑ์ออกนอกราชอาณาจักร พบพัสดุระหว่างประเทศ ปลายทางประเทศสหรัฐอเมริกา มีลักษณะต้องสงสัย เป็นกล่องบรรจุผลไม้อบแห้ง นมผงพร่องมันเนย เครื่องดื่มธัญญาหารสำเร็จรูป

เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบวัตถุเป็นเกล็ดใสบรรจุในถุงพลาสติก หยดน้ำยาทดสอบเบื้องต้น แสดงผลเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) จึงตรวจยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 4 จับกุม นายสุชาติ หรือโกจ้อง เก้าเอี้ยน อายุ 40 ปี และนายวีรศักดิ์ หรือเล็ก พรรณราย อายุ 29 ปี และของกลางยาบ้า 710,000 เม็ด อาวุธปืนขนาด 6.35 ม.ม. พร้อมกระสุนปืน 14 นัด พร้อมทรัพย์สินที่ยึดไว้ตรวจสอบอีกหลายรายการ

สืบเนื่องจากช่วงปลายปี 2561 บก.ปส.4 ขยายผลกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดจนทราบว่านายสุชาติ นำยาเสพติดไปซุกซ่อนไว้ที่บ้านพักใน จ.สงขลา จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นพบยาบ้า 1 แสนเม็ด ผู้ต้องหาให้การรับว่านายวีรศักดิ์ สั่งให้นำมาเก็บไว้

ตำรวจจึงวางแผนนัดพบกับนายวีรศักดิ์ ที่ศาลาพักริมทาง ถนนสิงหนคร-สงขลา ก่อนจับกุมพร้อมยาบ้าอีก 6 แสนเม็ดที่ซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ ก่อนขยายผลเพิ่มเติมและนำผู้ต้องหาทั้งส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ฐาน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อนายสุชาติ ฐานมีอาวุธปืนมีทะเบียนและเครื่องกระสุนปืน ซึ่งเป็นของบุคคลอื่นไว้ในครอบครอง และข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ต่อนายวีรศักดิ์

คดีที่ 5 จับกุมนายสมนึก ศรีนิ่มนวล อายุ 54 ปี น.ส.จารุณี แซ่หมื่อ อายุ 24 ปี และนายวันเฉลิม แซ่หมื่อ อายุ 31 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 120,000 เม็ด รถยนต์ 2 คันและของกลางอื่นที่ยึดตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 11,560,000 บาท

คดีนี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า จะมีกลุ่มผู้ค้าและลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดเชียงราย ไปส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถยนต์นำทางให้กับขบวนการขนลำเลียงยาเสพติดจาก ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ก่อนสกัดจับกุมได้บริเวณสามแยกบ้านทุ่งหลวง หมู่ 6 ต.ดอนศรีชุม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา พร้อมของกลางดังกล่าว

เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์ ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน