หนุ่มหื่นจนมุม ถูกจับลักกกน.ไปดม สารภาพเมากาว พ่อหวังลูกออกจากคุกกลับเป็นคนปกติ

หนุ่มหื่นจนมุม – เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. ที่ สภ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น พ.ต.ท.สมศักดิ์ เย็นเหลือ สว.(สอบสวน) สภ.โนนศิลา ทำการเบิกตัวนายบรรจง เล่ห์กล หรือแดง อายุ 34 ปี ชาวบ้านหนองไฮ ต.บ้านหัน อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพล ในข้อหาบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน และข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน เพื่อขออำนาจศาลจังหวัดพล ฝากกขังพลัดแรก หลังจากที่ผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งในระหว่างการเบิกตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลนั้นได้มีนายสมพงษ์ เล่ห์กล อายุ 60 ปี บิดาของนายแดง พร้อมหลานสาว นำเสื้อผ้า ยารักษาโรคเก๊าท์ และข้าวกล่องมาส่งให้ผู้ต้องหาด้วย

พ.ต.ท.สมศักดิ์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โนนศิลา นำหมายจับของศาลจังหวัดพลเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาได้บริเวณริมถนนภายในหมู่บ้านหนองไฮ เมื่อช่วงค่ำของเมื่อวานที่ผ่านมา (7 มิ.ย.) หลังจากที่ผู้ต้องหาบุกเดี่ยวเข้าไปก่อเหตุขโมยกางเกงในสุภาพสตรี เหตุเกิดเมือกลางดึกของวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเจ้าทุกข์ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันได้นำหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ที่นายแดงเข้ามาก่อเหตุได้ทั้งหมด เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อเอาผิดตามกฎหมาย

“จากการสอบสวนนายแดง ให้การรับสารภาพว่าในคืนเกิดเหตุได้เข้าไปในบ้านหลังดังกล่าวจริง โดยขณะนั้นมีอาการเมากาว ได้ยินเสียงผู้หญิงเรียกให้เข้าไปในบ้าน ผู้ต้องหาจึงได้เดินเข้าไปและหยิบกางเกงในจากราวตากผ้ามาหนึ่งตัว แล้วเดินกลับออกไป แต่ขณะเกิดเหตุนั้นเป็นเพราะอาการเมาสารระเหยทำให้ควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำให้ไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปบ้าง และกางเกงในตัวนั้นก็จำไม่ได้ว่าได้เอาไปทิ้งไว้ที่ไหน”

พ.ต.ท.สมศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า การกระทำของผู้ต้องหาดังกล่าวจะถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน และข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน ซึ่งข้อหาบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน นั้นอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท ขณะที่ข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท

อย่างไรก็ตามในชั้นพนักงานสอบสวนนั้นได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นบุคคลอันตราย ที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ชาวบ้านมาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาผู้ต้องหายังเคยถูกจับดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกเคหะสถานมาแล้ว 3 ครั้ง เสพยาเสพติด 1 ครั้ง เข้ารับการบำบัดเรื่องการสูดดมสารระเหย 1 ครั้ง ล่าสุดเมื่อปี 2561 ถูกดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติด และบุกรุกเคหะสถาน เพิ่งพ้นโทษออกมาไม่ถึงเดือนก็มาก่อเหตุซ้ำดังกล่าว

ขณะที่นายสมพงษ์ บิดาของนายบรรจง กล่าวว่า บุตรชายเป็นคนไม่ทำมาหากิน วันๆ ก็จะสูดดมสารระเหย ซึ่งติดมานานแล้วแต่ทางครอบครัวไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร เมื่อเมาก็จะอาละวาดพ่อแม่ และสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาโดยตลอด แต่เมื่อลูกชายถูกจับก็เป็นห่วงกลัวลูกขาดยา จึงนำยาและข้าวมาให้ลูกกิน และอยากจะให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้นานๆ และต้องการให้ลูกชายได้รับการบำบัดเผื่อลูกจะหายจากการติดสารระเหย กลับมาเป็นคนปกติดังเดิม


ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน