ลูกหอบกะโหลก พ่อถูกฆ่าเผา ในไร่อ้อยขอความเป็นธรรม 8 เดือนยังจับคนร้ายไม่ได้ เชื่อพ่อถูกฆาตกรรม จี้ให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวน ให้คุ้มครองพยาน หวั่นครอบครัวไม่ปลอดภัย ไม่รู้ใครจะเป็นศพต่อไป
จากกรณี น.ส.ขวัญตา ใจทัด อายุ 29 ปี ลูกสาวนายชุน ร้องเรียนต่อ พล.ต.ท.อัตชัย ดวงอัมพร ผบช.ประจำ สนง.ผบ.ตร.และประธานคณะกรรมการบริหารจัดการคนหายและศพนิรนาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านมูลนิธิกระจกเงา เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา เพื่อให้หาตัวนายชุน ใจทัด อายุ 58 ปี ชาวจ.ยโสธร ที่หายออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.61 จนเมื่อวันที่ 26 มี.ค. ผู้ใหญ่บ้าน บ้านน้อมเกล้า พบกระดูกอยู่ในไร่อ้อย และยังพบหัวกะโหลก กระดูกขา แขนบางส่วน ปืนแก๊ปยาวไทยประดิษฐ์ ล่าสุดสถาบันนิติเวชส่งผลพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล นต.รพ.ตร.ที่ 0036.34/1222 ลงวันที่ 22 เม.ย.62 ระบุว่าผลตรวจเนื้อเยื่อกระพุ่มแก้มของน.ส.ขวัญตา ตรงกับกระดูกที่พบเป็นกระดูกบิดา น.ส.ขวัญตา
พ่อถูกฆ่าเผา / เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ตำรวจจังหวัดยโสธร นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย น.ส.สุกัญญา ใจทัด อายุ 31 ปี และน.ส.ขวัญตา ใจทัด อายุ 29 ปี ลูกสาวของนายชุน ใจทัด ผู้เสียชีวิตที่ถูกเผาในไร่อ้อย หมู่ 17 บ้านน้อมเกล้า ต.บุ่งค้า อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร นำพยานหลักฐานใหม่ที่พบเห็นนายชุน ขณะยังไม่เสียชีวิต เพื่อให้สืบสวนหาผู้กระทำความผิด ที่เป็นเหตุให้พ่อเสียชีวิต พร้อมทั้งนำกระดูกของนายซุนเข้ามาร้องขอความเป็นธรรม ต่อพล.ต.ต.ภิญโญ หวลกสินธุ์ ผบก.ภ.จว.ยโสธร
นายรณณรงค์ กล่าวว่า ตนพร้อมครอบครัวของนายชุน ใจทัด ผู้เสียชีวิตที่ถูกเผาในไร่อ้อย มายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ต.ภิญโญ หวลกสินธุ์ ผบก.ภ.จว.ยโสธร โดย 1.ขอให้ดำเนินการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนและตั้งชุดสอบสวนจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ดำเนินการแทน เพื่อให้การสอบสวนคดีดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็วมีประสิทธิภาพ และเกิดความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย
2.ขอให้ดำเนินการคุ้มครองพยาน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีฆาตกรรมอำพรางศพ และยังตามจับตัวผู้กระทำความผิดไม่ได้ เกรงว่าอาจจะมีการข่มขู่พยานหรืออาจไม่ได้รับความปลอดภัย เนื่องจากพยานที่อยู่ในหมู่บ้านหวาดกลัว เพราะมีการฆ่ากันตายแต่ตำรวจยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ใครจะเป็นศพต่อไปก็ไม่รู้
นายรณณรงค์ กล่าวต่อว่า โดยวันนี้นำพยานมา 4 ปาก ประกอบด้วยพยานที่เห็นผู้ตายเป็นครั้งสุดท้าย พยานที่พูดคุยกับผู้ตายเป็นครั้งสุด พยานที่เห็นเหตุการณ์ทะเลาะกันอย่างรุนแรง พร้อมกันนี้ญาติผู้ตายยังสงสัยบุคคลที่ทะเลาะกันรุนแรงเป็นวันสุดท้ายก่อนจะหายตัวไป
นอกจากนี้ หลังจากการร้องขอความเป็นธรรมเสร็จ ตนจะเดินทางไปยังที่พบโครงกระดูก เนื่องจากตนสงสัยจุดที่พบกระดูก เพราะไม่ใช่จุดที่ผู้ตายต้องเดินผ่านเป็นประจำ และยังพบหมวกและรองเท้าของผู้ตายยังอยู่ห่างจากทุ่งนาไป 200 เมตร อยู่ห่างจากจุดพบกระดูกไป 2 กิโลเมตร ตนไม่เชื่อว่าผู้ตายเป็นลมตาย เพราะถ้าคนเป็นลมตายหรือตายโดยธรรมชาติ ของส่วนตัวต้องอยู่ในบริเวณเดียวกันไม่มีทางห่างไปไกลถึง 2 กิโลเมตร หากจังหวัดยโสธรไม่สามารถคลี่คลายคดีดังกล่าวได้ ว่าสาเหตุการตายเกิดจากอะไร ก็จะนำกระดูกไว้หน้าห้องผู้การต่อไป
ด้าน น.ส.สุกัญญา กล่าวว่า ก่อนที่นายชุนพ่อของตนจะหายตัวไปนั้น มีปากเสียงกับผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งในพื้นที่ และบิดายังทิ้งข้อความไว้กับครอบครัว คล้ายเป็นการสั่งเสียว่าอาจจะต้องถูกฆ่าและเล่าว่า มีปากเสียงกับผู้ต้องสงสัย ซึ่งครอบครัวของผู้ต้องสงสัยรายนี้เป็นผู้มีอิทธิพลในท้องที่ และทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
อีกทั้งจุดพบศพซึ่งเป็นป่าอ้อยนั้น อยู่ห่างจากตัวบ้านหลายกิโลเมตร ซึ่งพ่อของตนมีอาชีพตัดอ้อยและไม่เคยไปยังบริเวณดังกล่าว จึงเป็นไปไม่ได้ที่สาเหตุการตายจะเกิดจากเหตุสุวิสัย โดยตนเชื่อว่ามาจากการฆาตกรรม
พล.ต.ต.ภิญโญ กล่าวว่า ขณะนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดยโสธรตั้งทีมพนักงานสอบสวน และชุดสืบสวนขึ้นมาใหม่แล้ว ขณะนี้กำลังดำเนินการสอบสวนพยานอยู่ ส่วนการคุ้มครองพยานนั้น จะดำเนินการต่อไป
