จับอีกรอบ 4 โจร อุ้ม ‘โอปอ’ เรียกค่าไถ่ หลังอัยการปล่อยหลุดคดี ส่งฟ้องศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ดำเนินคดีใน 5 ข้อหา ชี้โทษหนักถึงประหาร อัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ เผยสอบสวนข้อเท็จจริงตามคำสั่งอธิบดีอัยการภาค 4 คาดจะรู้ผลที่ปล่อยตัวเร็วๆนี้

กรณีน.ส.ประภาพรรณ หรือ โอปอ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม คดีค้ายาบ้า แต่เป็นผู้เสียหายในคดีเรียกค่าไถ่ ซึ่งถูกคนร้าย 5 คน อุ้มขึ้นรถ เมื่อวันที่ 11 ก.ค.61 ภายหลังโอปอ รู้ว่าตนเองตกเป็นผู้ต้องหาคดีค้ายาบ้าด้วย จึงเข้าพบผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ นำหลักฐานอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่เอี่ยวยาเสพติด ไปมอบให้กับศูนย์ดำรงธรรมกาฬสินธุ์ แต่หลังจากให้ข้อมูลน.ส.ประภาพรรณ กลับหลบหนีไป ต่อมาผู้ต้องหา 4 คน ที่อุ้มเรียกค่าไถ่โอปอ และถูกศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งปล่อยตัว เนื่องจากพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบคดีฟ้องคดีไม่ทัน ทำให้สังคมตั้งคำถามทำไมถึงไม่ถูกดำเนินคดี ล่าสุดตร.กาฬสินธุ์ตามจับ 4 ผู้ต้องหา ที่ถูกปล่อยตัวหลุดคดีไปเนื่องจากขาดฟ้อง พร้อมกับส่งตัวฟ้องศาลใน 5 ข้อหาหนัก โทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต ขณะที่อัยการกาฬสินธุ์ เผยสอบสวนข้อเท็จจริงตามคำสั่งอธิบดีอัยการภาค 4 คาดจะรู้ผลที่ปล่อยตัวเร็วๆนี้

โอปอ / เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัญหา รอง ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี ควบคุมตัว 1.นายมานะศักดิ์ อุดมพันธ์ หรือเปรี้ยว อายุ 23 ปี 2.นายธนารัตน์ ภูโชคชัย หรือโชค อายุ 23 ปี 3.นายศุภมิตร บัญชา อายุ 30 ปี และ 4.นายรัฐศาสตร์ ภูนายาว อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ถึง 4 หมาย

ประกอบด้วย เลขที่ จ.117/2562, เลขที่ จ.118/2562, เลขที่ จ.119/2562 และ เลขที่ จ.120/2562 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2562 ผู้ต้องหา ส่งตัวไปยังศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินคดีใน 5 ข้อหา ประกอบด้วยร่วมกัน ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น, ร่วมกันกักขังบุคคลเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่, ข่มขืนใจผู้อื่น ทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย, พาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นคดีร่วมกันเรียกค่าไถ่ โทษสูงสุดตั้งแต่จำคุกตลอดชีวิตถึงประหารชีวิต ส่วนนายสุรศักดิ์ จันทร์เพ็ง อายุ 20 ปี ถูกจำคุกในฐานความผิดหน่วยเหนียวกักขังและพกพาอาวุธมีด ไปก่อนหน้านั้นแล้ว

พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัญหา รอง ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้จับกุมตัว นายธนารัตน์ ภูโชคชัย หรือโชค อายุ 23 ปี นายศุภมิตร บัญชา อายุ 30 ปี และเมื่อวานนี้ ตำรวจก็จับตัว นายมานะศักดิ์ อุดมพันธ์ หรือเปรี้ยว อายุ 23 ปี และ นายรัฐศาสตร์ ภูนายาว อายุ 34 ปี ก่อนนำตัวส่งศาล ซึ่งทางพนักงานอัยการก็ฟ้องในข้อหาเดิมทั้งหมด

ขณะที่ น.ส.นฤมล วิเชียรแสน อัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานอัยการผู้รับชอบคดีนี้ รายงานเหตุการณ์ที่ปล่อยขาดฟ้องแล้ว ส่วนผลสอบต้องรออธิบดีอัยการภาค 4 ลงมาสอบสวนเร็วๆ นี้ ว่าเหตุที่ปล่อยขาดฟ้องเกิดขึ้นได้อย่างไรที่ต้องใช้เวลา แต่สำหรับการส่งฟ้อง 4 ผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นคดีใหม่นั้น มีคำสั่งเปลี่ยนตัวพนักงานอัยการเจ้าของคดี เป็นอัยการคนใหม่แล้ว เพื่อความสบายใจและรอการสอบสวน ทั้งนี้ในสิ่งที่ประชาชนอยากรู้ว่า เหตุใดอัยการผู้รับผิดชอบคดีจึงปล่อยให้ผู้ต้องหาหลุดคดีไปนั้น หรือเป็นเพราะเหตุใดนั้น คงต้องรอผลสอบที่คาดว่าทางคณะอธิบดีอัยการภาค 4 จะมีคำตอบในเร็วๆนี้

สำหรับคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.ค.61 มีคนร้าย 5 คน ดักอุ้ม น.ส.ปรระภาพรรณ หรือโอปอ ภูอุทา อายุ 26 ปี ที่ข้างจวนผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ต่อมาตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ สามารถจับกุม ตัว คนร้ายได้ทั้งหมด ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ทำสำนวนส่งอัยการจังหวัด ส่งฟ้องไปเมื่อวันที่ 4 ต.ค.61 ต่อมาเมื่อวันที่ 5 มี.ค.62 ศาลนัดไต่สวน นายสุระศักดิ์ จันทร์เพ็ง ผู้ต้องหาที่ 3 รับสารภาพ ศาลจึงสั่งให้แยกฟ้อง ซึ่งนายสุรศักดิ์ดำเนินคดีในข้อหาหน่วงเหนียวกักขังและพกพาอาวุธมีด จำคุก 1 ปี

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ส่วนจำเลยอีก 4 คน ศาลจึงสั่งการอัยการฟ้องเป็นคดีใหม่ภายใน 15 วัน แต่ปรากฏว่าไม่ได้ส่งฟ้อง ผู้ต้องหาจึงถูกปล่อยตัว ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะด้วยเหตุใด แต่หลังจากที่มีการจับกุมหัวหน้าแก๊งได้เมื่อเร็วๆนี้ จึงมีคนไปพบผู้ต้องหาไม่ติดคุก จึงเป็นที่มาของการตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาใหม่ทั้งหมด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน