กรณีนางตีบ ดำแดง หรือทวดตีบ 6 แผ่นดิน ผู้ที่มีอายุยืนยาวที่สุดใน จ.สงขลา เสียชีวิตลงแล้วอย่างสงบขณะอายุได้ 120 ปี ญาตินำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดพุทธิการาม อ.หาดใหญ่ และมีลูกหลานรวมทั้งผู้ที่เคารพ เดินทางมาร่วมพิธีศพอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีพิธีฌาปณกิจในวันที่ 21 มี.ค. ลูกสาวเผยคุณทวดเกิดตั้งแต่รัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 9 มีเคล็ดลับอายุยืน สุขภาพร่างกายแข็งแรง คือชอบกินพวกผัก ปลา แต่ที่ชอบที่สุดคือกุ้งหวาน และกล้วยน้ำว้า ที่สำคัญชอบทำบุญเป็นชีวิตจิตใจ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นางผ่องศรี บูรณพันธ์ อายุ 86 ปี ลูกสาวนางตีบ ดำแดง อายุ 120 ปี หรือคุณทวดตีบ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เริ่มบำเพ็ญกุศลศพทวดตีบเมื่อวันที่ 16 มี.ค. ขณะนี้ช้อนที่เป็นที่ระลึกที่แจกในงานศพหมดแล้วประมาณ 1,000 คัน โดยเฉพาะที่บ้านพักแทบไม่มีเหลือ ทางญาติเตรียมสั่งช้อนมาเพิ่มอีก 1,000 คัน เพื่อแจกให้กับผู้ที่มาร่วมพิธีฌาปณกิจในวันที่ 21 มี.ค. ที่วัดพุทธิการาม อ.หาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่พอกับความต้องการ เพราะผู้คนต้องการเป็นอย่างมาก
“ช้อนที่ใช้ในงานศพก็มีคนแอบหยิบติดมือกลับไปนับ 100 คัน เช่นกัน เพราะคนโบราณเชื่อว่าถ้าจะให้ขลังจริง ต้องเป็นช้อนที่ขโมยมาจากงานศพคนที่มีอายุ 105 ปี ขึ้นไปเท่านั้น ต้องนับหลังจากเสร็จงานศพอีกครั้ง ว่าหายไปจำนวนเท่าไหร่” นางผ่องศรี กล่าว
ลูกสาวทวดตีบ กล่าวว่า ผู้ที่มาขอช้อนในงานศพของทวดตีบ มีทั้งเครือข่ายญาติใน จ.สงขลา พัทลุง จ.นครศรีธรรม และประชาชนทั่วไปที่ทราบข่าว ต่างเดินทางมาที่วัดสอบถามเรื่องราวของทวดตีบอย่างต่อเนื่อง พร้อมร่วมทำบุญพร้อมกับขอช้อนไปเป็นที่ระลึกเช่นกัน ซึ่งญาติก็ยินดีให้ทุกคนเพื่อเป็นการทำบุญให้ทวดตีบร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สิ่งที่ผู้ที่มาร่วมงานส่วนใหญ่ต้องการกลับเป็นที่ระลึกก็คือช้อนในงานศพ ตามความเชื่อของคนโบราณในภาคใต้ ที่เชื่อกันว่าการได้ช้อนจากงานศพของผู้ที่เสียชีวิต ตั้งแต่อายุ 105 ปี หรือ 110 ปีขึ้นไป จะเป็นมงคล ค้าขายดี อายุยืนยาว แคล้วคลาด ให้โชคให้ลาภ และไม่เจ็บไข้ แต่ถ้าจะให้ขลังที่สุดต้องขโมยช้อนมาจากงานศพเท่านั้น
ทั้งนี้ สำหรับงานศพของทวดตีบ ญาตินำเกียรติบัตรที่รับการยกย่องและเชิดชูเกียรติบางส่วนมาตั้งไว้หน้าศพ เช่นจากสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมป์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประกาศเกียรติคุณผู้มีอายุ 100 ปี ขึ้นไป เป็นผู้ที่รักษาสุขภาพและพลานามัยอย่างดีสมควรแก่การยกย่อง และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้สูงอายุ ซึ่งมอบให้เมื่อปี 2557
