พระน็อต หายตัวลึกลับ ไถดินป่าช้าเก่า-เจอเหตุหลอน เมียจุดธูปขมา เผยตำนานลับแล

วันที่ 25 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี รายงานความคืบหน้า จากกรณีมีพระสงฆ์รูปหนึ่งหายออกจากวัดโพธิญาณ(เกาะเค็ด) ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ตรวจสอบที่วัดดังกล่าว พบพระครูสันติ โพธิคุณ เจ้าอาวาสวัด บอกว่า ให้สอบถามพระลูกวัดที่อยู่กุฏิเดียวกัน

จากการสอบถามพระดารินัยน์ จารุธรรมโม พระลูกวัดที่อยู่กุฏิ เดียวกัน 5 รูป ตนเองเพิ่งบวชวานนี้ กับ พระประมูล มาทา อายุ 60 ปี พระที่หายตัวไป คือ พระประมูล มาทา ซึ่งบวชพร้อมกันและพักอยู่กุฏิหลังใหญ่มี 5 ห้อง อยู่กันคนละห้อง ตนอยู่ห้องตรงข้าม กับ พระประมูล

พระดารินัยน์ กล่าวว่า ช่วงหัวค่ำได้คุยกับพระประมูลหลายเรื่อง พระประมูลจะคุยว่าอยากสึก ตนบอกว่าอย่าเพิ่งสึกเลยเพิ่งบวชยังไม่ทันข้ามวันเลย ถ้าจะสึกก็อยู่ให้ได้ 7 วัน ก่อน ค่อยสึก แต่พระประมูลก็บ่นไม่หยุด ตนกับพระลูกวัดและหลวงตาได้พากันพูดปลอบโยน หลังจากนั้นก็เห็นพระประมูลเข้าห้องไป

ตนเองกับหลวงตายังสนทนาธรรมกันอยู่ กระทั่งหลังเที่ยงคืนยังได้ยินเสียงพระประมูลอยู่ในห้อง จึงเข้าห้องไป กระทั่งค่อนสว่างก็ยังได้ยินเสียพระประมูลอยู่ในห้องตรงข้ามอยู่ จึงทำธุระส่วนตัว เตรียมที่จะออกไปบิณฑบาตในตอนเช้า ก่อนออกไปบิณฑบาตจึงได้เรียกหา แต่ไม่ขานตอบ จึงบอกขอเปิดประตูดูแล้วกัน เมื่อเปิดห้องดูไม่พบพระประมูลแล้ว ในใจคิดว่าท่านคงจะลงไปรออยู่ด้านล่าง เมื่อได้เวลาออกบิณฑบาตถามหาพระประมูลไม่มีใครพบเห็นท่าน จึงบอกเจ้าอาวาสวัดและออกไปบิณฑบาต

ต่อมาได้แจ้งญาติโยมให้ทราบ พอทราบข่าวผู้ใหญ่บ้าน และ ส.อบต. กับ ญาติๆ ออกติดตามค้นหา รอบๆ วัด และ ในหมู่บ้าน ไม่พบตัวพระประมูล พระครูสันติ เจ้าอาวาสได้กล่าวว่า ก่อนที่พระประมูลจะมาบวชนั้น ภรรยามาบอกว่าขอให้บวชให้สามีด้วย เนื่องจากว่ามีอาการหลอนๆ

“ก่อนหน้านี้ สามีรับจ้างขับรถไถ ได้ไปไถปรับที่ในป่าช้าเก่าวัดแห่งหนึ่ง และไถดันดิน รถเกิด ดับๆ ติดๆ วันต่อมา ก็มีอาการแปลกๆ มักได้กลิ่นเหม็นๆ คล้ายกลิ่นศพ กลางคืนนอนแทบไม่ได้ จึงมาขอบวชเพื่อขอแผ่กุศลผลบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ล่วงเกินไปแล้ว”








Advertisement

ผู้สื่อข่าวตามไปที่บ้าน ขอพบกับนางฉาย มาทา อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ม.1 ต.หนองโพรง นางฉาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สามีเป็นคนปกติดีทุกอย่าง หลังจากไปรับจ้างขับรถไถปรับดันที่ป่าช้าเก่าที่วัดหัวนา ม.1 ต.หัวหว้า ก็มีอาการผิดปกติ นั่งเหม่อและหวาดกลัวอะไรบางอย่าง ตนคิดว่าน่าจะล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัด เพื่อที่จะให้หลุดพ้นจากสิ่งไม่ดี จึงให้สามีบวชแก้เคล็ดเพื่อหนักจะได้กลายเป็นเบา แต่ปรากฏว่าสามีหายตัวออกจากวัดไปอย่างลึกลับ ตนและญาติๆ ออกค้นหาตามที่ต่างๆ แต่ก็ยังไม่พบตัวพระประมูลแต่อย่างใด และไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ แล้ว

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดหัวนา ตามที่ได้รับการแจ้ง พบว่า ที่วัดนี้มีการปรับถมที่ใหม่ บริเวณดังกล่าวมีต้นตะเคียนต้นใหญ่สูง 10 เมตร และต้นยางนา 2 ต้น อาจเป็นไปได้ว่าพระประมูลมาไถปรับที่บริเวณนี้จริงและอาจทำลายจอมปลวก หรือ ไถดันสถานที่เผาศพเก่าที่อยู่ในวัด โดยไม่บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง จึงเกิดอาการหลอนเกิดขึ้น ตามความเชื่อของชาวบ้าน

จากคำบอกเล่าของพระลูกวัด บอกว่า พระประมูลหายตัวไป ได้นำของใช้ส่วนตัวไปไม่กี่ชิ้น และดูจากกล้องวงจรปิดทางออกวัด ก็ไม่พบว่าพระประมูลเดินออกไปทางนี้ หรือมีรถอะไรมารับไป ช่วงกลางคืน พระประมูลอาจเดินออกทางอื่น จึงไม่มีใครเห็น ญาติได้บนบานทุกวิถีทาง อีกทั้งพึ่งพาไสยศาสตร์ ให้หมอดู ว่าอยู่ที่ใดกันแน่ แต่ก็ยังไม่พบตัวพระประมูลจนแล้วจนรอด

ล่าสุด วันที่ 25 มิ.ย.62 นางฉาย กับ ลูก และญาติๆ ได้ทำพิธีบนบานเจ้าที่ และ ขอขมาสิ่งลี้ลับ ที่วัดหัวนา หน้าศาลเพียงตาต้นตะเคียนเก่าแก่ และวัดโพธิญาณ ที่บังตาด้วย ไก่-เหล้า-ชุดไทย , หัวหมู , ไก่ต้มทั้งตัว ขอให้พบตัวพระน็อตโดยเร็ว

นางฉาย กล่าวว่า ทุกคนเป็นห่วงพระน็อตมาก หากใครพบเห็น ขอให้ติดต่อมายังลูกสาว หมายเลขโทรศัพท์ 086-157-9388 ล่าสุดแม้ช่วงกลางคืนถึงเที่ยงคืนได้ติดตามหา ก็ไม่พบแต่อย่างใด และในวันนี้ หากไม่พบจะได้ไปแจ้งความคนหาย ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ ต่อไป เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนติดตามอีกทางหนึ่ง โดยก่อนหน้านั้น เพียงแค่ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

ขณะที่ชาวบ้าน และ คนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน ยังไม่เคยมีใครพบเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากเคยมีตำนาน แถบ อ.ศรีมหาโพธิ แถบอนุสาวรีย์ลายพระหัตถ์ , ต.หัวหว้า ในอดีตเป็นเมืองเก่าแก่ยุคทวารวดี เป็นเมืองลับแล มีคนหลงเข้าไปแล้วกลับออกมาเล่าให้ลูกหลานฟัง

จนกระทั่ง สมัย รศ.127 สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง หรือ รัชกาลที่ 5 เสด็จนมัสการดงศรีมหาโพธิ ได้เสด็จทอดพระเนตรหลุมเมือง และทรงลงพระปรมาภิไธย “จปร.127” ที่หินศิลาแลง ปัจจุบันประดิษฐานที่อนุสาวรีย์ลายพระหัตถ์ หลังลงพระปรมาภิไธย อาถรรพ์ต่างๆ ได้ล้างหมดหายไป กลายเป็นความเจริญรุ่งเรืองเป็นเมืองนิคมอุตสาหกรรม ในปัจจุบัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน