เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่กฟผ.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ได้เคลื่อนย้ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่สั่งซื้อจากประเทศโปแลนด์ ขนาดกว้าง 4.30 เมตร ยาว 11.50 เมตร น้ำหนักประมาณ 365 ตัน โดยใช้วิธีการขนส่งมาทางทะเลขึ้นท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี และลำเลียงมาทางเรือโดยล่องมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา และขึ้นฝั่งที่ท่าเรือในต.บางเสด็จ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง และใช้รถเทรลเลอร์ขนาดใหญ่ กว้าง 6 เมตร มีความยาวกว่า 100 เมตร มีล้อยาง 704 ล้อบรรทุกเครื่องกำเนิดไฟฟ้าออกเดินทางไปส่งที่กฟผ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา

แต่ปรากฎว่าล่าสุดเพจของกฟผ.แม่เมาะ ได้ประกาศให้ชะลอขนย้ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพื่อให้กรมทางหลวงตรวจเอกสารก่อนเดินทางต่อ ว่าเมื่อเวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา กฟผ.แม่เมาะ ได้สั่งการไปยังบริษัทศิลามาศ ทรานสปอร์ต จำกัด บริษัทผู้รับจ้างขนส่งให้ชะลอการขนย้ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่ จำนวน 704 ล้อเพื่อนำไปติดตั้งในโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เครื่องที่ 4-7 (MMRP1) และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กรมทางหลวงตรวจสอบหนังสืออนุญาตขนส่งก่อนออกเดินทางต่อ

ทั้งนี้การขนส่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่ในครั้งนี้ กฟผ.ได้กำชับไปยังบริษัทรับจ้างขนส่งแล้วว่า ให้ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนและสาธารณูปโภคในทุกด้าน มีการวางแผนสำรวจและตรวจสอบสภาพเส้นทางให้เหมาะสมที่สุดก่อนการขนส่ง ทั้งสภาพการจราจร ความแข็งแรงและความกว้างของถนน ตลอดจนความสามารถในการรองรับน้ำหนักของถนนและสะพาน ผ่านการคำนวณโดยวิศวกรโยธาระดับไม่ต่ำกว่าสามัญวิศวกร รายงานไปยังกรมทางหลวงพิจารณาก่อนทำการขนย้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการชะลอขนย้ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้าครั้งนี้ เนื่องจากเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา รถเทรลเลอร์ 107 ล้อได้ถูกด่านตรวจชั่งน้ำหนักเกาะคา กรมทางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง เรียกตรวจสอบการขออนุญาตรถบรรทุกของบริษัทศิลาทรานสปอร์ต จำกัด แล้วพบว่ารถหัวลาก 10 ล้อ ทั้ง 2 คัน ทะเบียน 63-5145 และ ทะเบียน 63-5457 ที่ใช้เคลื่อนย้ายครั้งนี้ไม่ตรงกับรถคันที่ได้แจ้งขออนุญาตไว้กับกรมทางหลวง และบรรทุกน้ำหนักเกินทั้ง 2 คัน

โดยกฎหมายกำหนดไม่เกิน 25 ตัน จึงต้องดำเนินการตามกฎหมายและยึดรถบรรทุกหัวลากทั้ง 2 คัน ไว้ตรวจสอบ ก่อนนำตัวส่ง ร.ต.อ.วสันต์ มณีกาศ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เกาะ แจ้งข้อหาใช้ยานพาหนะบนทางหลวง โดยยานพาหนะนั้นบรรทุกหรือน้ำหนักลงเพลาเกินกว่ากฎหมายกำหนด ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางหลวง ตาม พรบ.ทางหลวง พ.ศ.2535 (ฉบับแก้ไขปรับปรุงครั้งที่ 2 ปี พ.ศ.2549 ม.61 (73/2) มีโทษปรับ 1 หมื่นบาท โทษจำคุก 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนให้คนขับรถประกันตัวออกไปจากนั้นจะนัดให้มาพบเพื่อส่งอัยการฟ้องศาลต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าด้วย เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายรถเทรลเลอร์ 107 ล้อมาจอดไว้ บริเวณหน้าอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เกาะคา ทำให้ประชาชนชาวลำปางและผู้ที่ผ่านไปมาต่างจอดรถพากันมาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกันจำนวนมาก เนื่องจากไม่เคยเห็นรถขนาดใหญ่ที่มีล้อมากถึง 107 ล้อแบบนี้มาก่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน