แก๊งป้ายยา อาละวาดหนัก! ตุ๋นเงินเจ้าคณะตำบล อ้างจะไปเป็นตำรวจต้องใช้เงินเดินเรื่อง ด้าน ผกก.สภ.นครไทย สั่งเช็กวงจรปิดทุกตัว ระดมล่าคนร้าย
วันที่ 10 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีคนร้ายขับรถเก๋งมาจอดหลอก พระครูปราโมชจันทคุณ อายุ 76 ปี เจ้าอาวาสวัดหัวนา และเจ้าคณะตำบลบ้านพร้าว โดยทำทีมาถวายสังฆทาน พอเข้าไปในกุฏิได้ก็มีหญิงสาวลงจากรถตามมาสมทบอีก 1 คน โดยชายคนดังกล่าว เล่าให้ฟังว่าจะได้เป็นนายตำรวจแล้ว และมีความจำเป็นต้องใช้เงินไปเดินเรื่อง แล้วพูดคุยกันไปเรื่อยแต่หลวงพ่อจำไม่ได้ และได้นำเงินให้ไป 30,000 บาท ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักกัน
ซึ่งเมื่อได้เงินแล้วทั้งสองคนก็รีบออกจากกุฏิไปขึ้นรถ แล้วคนขับที่เป็นผู้ชายอีกคนหนึ่ง ก็ได้ขับรถพากันออกไปอย่างรวดเร็ว พอหลวงพ่อรู้สึกตัวและมีพระลูกวัดมาสอบถามเลยรู้ว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกเอาเงินไปแน่แล้ว และอาจจะป้ายยาบางอย่างที่มือของหลวงพ่อระหว่างเดินจับมือมาจากหน้าวัด
พระครูปราโมชจันทคุณ กล่าวว่า คนร้ายได้มาจอดรถหน้าวัด ขณะที่อาตมาเดินอยู่หน้าวัด และทำทีมาขอถวายสังฆทาน จากนั้นก็ได้มาช่วยจูงอาตมาเข้าไปในกุฏิ หลังจากนั้นก็มีผู้หญิงเดินตามมาด้วย ก่อนที่ชายดังกล่าวจะอ้างว่าจะไปเป็นตำรวจ แต่มีความจำเป็นต้องใช้เงินไปเดินเรื่อง แล้วพูดคุยกันไปเรื่อยแต่อาตมาจำไม่ได้
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
“ขณะนั้นอาตมามีเงินแค่ 20,000 บาท จึงได้ขอยืมพระลูกวัดให้ไปอีก 10,000 บาท รวมทั้งสิ้น 30,000 บาท และมารู้ตัวอีกทีก็ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกเอาเงินไปแน่แล้ว และอาจจะป้ายยาบางอย่างที่มือของอาตมาระหว่างเดินจับมืออาตมามาจากหน้าวัด” พระครูปราโมชจันทคุณ กล่าว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบในกล้องวงจรปิดของวัด พบคนร้ายมาพบกับพระครูปราโมชจันทคุณ ขณะเดินเลาะกำแพงอยู่หน้าวัด หลังจากนั้นได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.นครไทย เรียบร้อยแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.สุดสยาม ภูมิประเสริฐ ผกก.สภ.นครไทย ได้สั่งการให้ทางชุดสืบสวนหาข้อมูลคนร้ายรายนี้เป็นการด่วน เนื่องจากคนร้ายมาอ้างว่า จะนำเงินไปอบรม เพื่อเข้าไปเป็นตำรวจอีก ซึ่งอาจจะไปก่อเหตุที่อื่นได้ โดยขณะนี้ได้รายงานไปทางผบก.ภ.จว.พิษณุโลก เรียบร้อยแล้ว และประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก มาร่วมสืบสวนหาข่าว พร้อมกับไล่กล้องวงจรปิด ติดตามเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย และดูป้ายทะเบียนรถ
เพื่อติดตามหาตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ในพื้นที่ อ.นครไทย ยังไม่เคยเกิดเหตุเช่นนี้มาก่อน แต่ก็ได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้นำท้องถิ่น ชุมชน ให้เตือนลูกบ้าน ประชาชนให้ระมัดระวังแก็งหลอกขอเงินตามบ้านเรือน หรือ วัด เช่นกันอีก ส่วนจะมีการป้ายยาหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขอตรวจสอบอีกครั้ง
