ไถ่ชีวิต “พ่อใหญ่” ควายไทย เคยวิ่งรบเรื่องบางระจัน เกือบถูกเชือด คนแย่งซื้อหัวประดับบ้าน

วันที่ 12 ก.ค. ที่บ้านสวนปัญอิสรภาพ ในพื้นที่ ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี คนงานช่วยกันปฐมพยาบาลฉีดสเปรย์ที่ขาทั้ง 4 ข้างของ “พ่อใหญ่” ควายไทยเพศผู้อายุประมาณ 30 ปี มีน้ำหนักตัวมาก ให้ลุกขึ้นยืนได้ โดยช่วยกันพยุงพร้อมนำกระสอบผ้ามารองวางและนำโซ่คอยช่วยพยุงดึง พ่อใหญ่ ให้ลุกขึ้นกินหญ้า

เนื่องจากล้มป่วยเมื่อ 3 วันก่อน หลังจากที่ นางภัคจิรา หัตถกิจจำเริญ อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านสวนปัญอิสรภาพ เดินทางไปไถ่ชีวิตมาจากโรงฆ่าสัตว์ที่ จ.ภูเก็ต และนำมาเลี้ยงดูแลไว้

นางธีรญา เครือสง่า อายุ 53 ปี กล่าวว่า พ่อใหญ่เป็นควายที่เลี้ยงง่าย ไม่ดื้อ หลังไปไถ่ชีวิตมาจาก จ.ภูเก็ต ขณะที่มีคนนำไปขายให้กับโรงฆ่าสัตว์ ได้มีชาวบ้านคนหนึ่งรู้จักกับเจ้าของสวนปัญอิสรภาพ ติดต่อให้ไปช่วยไถ่ชีวิตควายตัวนี้ ซึ่งได้เลี้ยงไว้ที่ภูเก็ตประมาณ 5 ปี ก่อนจะย้ายพ่อใหญ่มาอยู่ที่ราชบุรี และจะมีควายเผือกอยู่ 1 ตัวที่คอยเป็นเพื่อนอยู่ใกล้ๆ

ด้านนางภัคจิรา เจ้าของบ้านสวนปัญอิสรภาพ กล่าวว่า ที่นี่มีพื้นที่เลี้ยงสัตว์มีอยู่ประมาณ 14 ไร่ มีสัตว์หลายชนิด เช่น หมูป่า หมูบ้าน แพะ วัว ควาย ที่ไปไถ่ชีวิตมาเลี้ยงดูแลอยู่ประมาณ 592 ตัว แม้กระทั่งสุนัขจรจัด และ แมวก็เลี้ยงรวมอยู่ด้วย เมื่อตายก็จะทำพิธีให้อย่างดี คนเลี้ยงก็ไม่กินเนื้อสัตว์กินแต่มังสวิรัติ

นางภัคจิรา กล่าวต่อว่า ที่ต้องเลี้ยงสัตว์ที่ไถ่ชีวิตมา เมื่อนานมาแล้วได้ไปดูที่โรงฆ่าสัตว์ต่างๆ พบเห็นสัตว์ร้องดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด จึงคิดแล้วว่าทุกชีวิตรักตัวเอง ไม่ต้องการเป็นอาหารให้กับใคร เลยอยากช่วยเหลือชีวิตสัตว์เหล่านั้น ก่อนหน้าที่จะไปไถ่ชีวิต พ่อใหญ่ ได้ไถ่ชีวิตวัวมาก่อนแล้วจำนวนหนึ่ง ต่อมามีชาวบ้านมาบอกว่าโรงฆ่าสัตว์มีการนำควาย ซึ่งเป็นควายที่เคยแสดงหนังเรื่องบางระจัน จึงเดินทางไปดูด้วยตัวเอง และรู้สึกสงสาร ดูจากลักษณะเป็นควายโบราณที่มีรูปร่างสูง

“สอบถามประวัติแล้วรู้ว่าทางโรงฆ่าไปเอาควายมาจากเจ้าของใหม่ โดยเจ้าของเดิมของพ่อใหญ่เคยเอาไปเล่นหนังเป็นตัวประกอบวิ่งรบในเรื่องบางระจันมาก่อน จากนั้นถูกขายต่อมาอีก 2 – 3 ครั้ง สุดท้ายจึงมาอยู่สถานที่ท่องเที่ยว พ่อใหญ่ถูกให้ลากเกวียน จนจมูกพ่อใหญ่ขาด ถูกให้ฝรั่งถ่ายรูป ด้วยอายุมากแก่ชราเริ่มไม่ไหวทางสถานที่ท่องเที่ยวเลยปลดพ่อใหญ่ออกมาไปขายให้กับโรงฆ่าสัตว์” นางภัคจิรา กล่าว

นางภัคจิรา กล่าวต่อว่า จากนั้นจึงถ่ายรูปพ่อใหญ่ มาลงเฟซบุ๊ก เพื่อขอยอดสะสมในการที่จะไถ่ชีวิตควายตัวนี้มา พอได้มาแล้ว คนที่ไปถ่ายชีวิตได้เล่าให้ฟังว่าทางเจ้าของเก่าและคนแถวนั้นเขาแย่งกันขอซื้อหัวกะโหลกพ่อใหญ่ เพื่อที่จะอาไปประดับหน้าบ้าน จึงได้ไปไถ่ชีวิตพ่อใหญ่มาไว้ที่ราชบุรี โดยเลี้ยงดูแลมาตั้งแต่อายุประมาณ 25 ปี ตอนนี้อายุ 30 ปีแล้ว

“เวลาสัตว์ป่วยจะรักษาตามอาการ พร้อมปรึกษาสัตวแพทย์ควบคู่กับการดูแล ถ้าอาการหนักจะให้สัตวแพทย์เข้ามารักษาให้เขาอยู่อย่างสบายที่สุดในวาระสุดท้าย เวลาที่สัตว์ตายแล้วจะมีผ้าธรณีเป็นผ้าที่มีคาถาของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตย์กวนอิม ซึ่งไปซื้อจากมูลนิธิจักษุ” เจ้าของบ้านสวนปัญอิสรภาพ กล่าว

เจ้าของบ้านสวนปัญอิสรภาพ กล่าวต่อว่า โดยได้สอบถามเจ้าอาวาสแล้วว่าผ้าที่คลุมให้สัตว์เป็นผ้าที่คลุมให้กับคนเวลาใส่ในโลงศพเพื่อนไปสู่สุขคติ ทางเจ้าอาวาสบอกว่าสามารถใช้แบบนี้คลุมให้สัตว์ที่ตายได้ เพราะพระพุทธเจ้าโปรดทั้งมนุษย์และสัตว์เท่าเทียมกัน

นอกจากนี้ยังมีกระดาษสุขาวดี ในการที่จะให้สัตว์เดินทางสู่สุขคตินำคลุมร่างและเผากระดาษสุขาวดีและจะฝังทุกชิ้นส่วนครบหมด จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับซากสัตว์ต่างๆด้วย จากนั้นจะจุดธูปบอกให้ไปสู่สุขคติ และทำสังฆทานบังสุกุลให้เรียบร้อยเหมือนคนทั่วไป

“ทุกวันนี้ได้ให้คนงานนำเงินที่ได้รับเงินบริจาคจากผู้ใจบุญที่บริจาคมา ไปซื้อหญ้าเนเปีย และฟางมาให้สัตว์ได้กินเป็นอาหาร อีกส่วนจะใช้เงินทุนของตัวเองมาช่วยเหลือ โดยได้ใช้ชีวิตนุ่งขาวห่มขาวพร้อมกับรับประทานอาหารมังสวิรัสมาได้ประมาณ 6 ปีแล้ว ในใจคิดเสมอว่าอยากจะดูแลให้มีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย” นางภัคจิรา กล่าว

สำหรับผู้ใจบุญมีศรัทธาหรือสงสารอยากร่วมทำบุญสามารถบริจาคเงินได้ที่ นางสาวภัคจิรา หัตถกิจจำเริญ ธนาคารกรุงเทพฯ สาขา ถนนศรีสุริยวงศ์ เลขที่ 530-0-48161-0 หรือ ธนาคารกรุงไทย สาขา ตลาดศรีเมืองราชบุรี เลขที่ 9845833047 หรือ โทรศัพท์สอบถามได้ที่ 0969659265

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน