เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 26 มี.ค. จากกรณีที่นายมีชัย เอ็นสว่าง อายุ 29 ปี พนักงานโรงงานยาง อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 10 ต.บางหลวง อ.บางเลน จ.นครปฐม ได้ออกมาเตือนภัยโพสต์หน้าเฟซบุ๊คว่าถูกเชือกพันคอขณะขี่จยย.กลับบ้านหลังเลิกงานจนได้รับบาดเจ็บ

นายมีชัยได้เดินทางมากับญาติและมาชี้จุดเกิด พร้อมกับโชว์บาดแผลที่บริเวณลำคอ ก่อนจะเล่าว่า ในขณะนั้นเป็นช่วงที่ตนเลิกงาน โดยขี่รถจยย.ฮอนด้าเวฟ ทะเบียน กจ.5370 นครปฐม ออกจากโรงงานผลิตยางดิสโตน เพื่อมุ่งหน้ากลับ้านพัก ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาสามทุ่มครึ่งในคืนวันที่ 24 มีนาคม โดยตนได้ใช้เส้นทางถนนสุชาติพัฒนา หลักกิโลเมตรที่ 20 ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม

เมื่อขี่มาถึงที่เกิดเหตุมีความรู้สึกว่ามีเชือกปลิวปะทะมาแตะที่บริเวณหน้าอก แต่แล้วเชือกเส้นดังกล่าวได้รูดพันขึ้นที่ลำคออย่างรวดเร็ว ตนตกใจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำให้ตนเสียหลัก จึงพยายามประคองรถไม่ให้ล้ม และพยายามเอามือคว้าเชือกไว้ แต่จู่ๆเชือกก็ขาดออกจากคอเสียก่อน แต่ตนไม่เห็นว่าเป็นเชือกชนิดใด ด้วยความกลัวจึงเร่งเครื่องอย่างแรงแล้วขี่ออกจากจุดเกิดเหตุทันที

เมื่อถึงบ้านได้ส่องกระจกดูร่องรอยที่ลำคอ พบว่ามีบาดแผลเป็นรอยเชือก และผิวแดงลอก มีเลือดไหลซิบเล็กน้อย จึงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลบางเลน หลังจากแพทย์ตรวจดูพบว่าอาการดีขึ้นจึงให้เดินทางกลับบ้าน พร้อมกับนำความเข้าแจ้งไว้ที่ สภ.บางหลวง อ.บางเลน จ.นครปฐม แล้ว

นายมีชัยกล่าวว่า ขณะนั้นตนไม่ทราบจริงๆว่าเชือกมาจากไหน และตนก็ไม่กล้าจอดรถดู เพราะตนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและกลัวว่าหากมีคนร้ายดักซุ่มอยู่ ตนจะได้รับอันตราย และขอเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนในยามค่ำคืนและทางเปลี่ยวขอให้ระมัดระวัง ไม่ควรขี่รถมาตามลำพัง

พ.ต.อ.เด่นชัย อินทร์จักร ผกก.สภ.บางหลวง กล่าวว่า ได้ทราบภายหลังจากที่ทางพนักงานสอบสวนได้รางานให้ทราบ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายมีชัยนั้น หลังจากนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจออกตรวจตราอย่างถี่ถ้วน แต่กลับไม่พบเชือกหรือสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด เนื่องจากกลัวว่าจะมีชาวบ้าน หรือคนอื่นๆขี่มาแล้วประสบเหตุเหมือนกับนายมีชัย เป็นไปได้ว่าอาจมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีเตรียมการก่อเหตุชิงทรัพย์เหยื่อก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม จะให้ตำรวจสายตรวจออกตรวจตราอย่างถี่ถ้วนสม่ำเสมอเพื่อป้องกันเหตุร้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน