สาวเล่านาทีหนีโจรหื่น ขับจักรยานยนต์ ไล่จับหน้าอก เตือนผู้หญิงเมืองเพชรบูรณ์ระวัง เผยกลัวจนตัวสั่นไม่กล้าขับรถกลับบ้าน ก่อนให้สามีพาไปแจ้งความ จี้ตำรวจเร่งจับ

วันที่ 5 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีสาวผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความเตือนภัยผู้หญิงทุกคนในพื้นที่จ.เพชรบูรณ์ โดยระบุว่า “ฝากเตือนผู้หญิงทุกคนที่ทำงานกับบ้านดึกๆนะคะ วันนี้ช่วง 2 ทุ่มครึ่ง เราขับรถกับบ้านมุ่งหน้าไปทางโคกปรง ช่วงซอยตรงข้ามร้านอาหารครัวประจักษ์ มีผู้ชายหุ่นสูงใหญ่ร่างท้วม ขับรถยี่ห้อฮอนด้าคลิกสีขาว ไม่ทราบเลขทะเบียน ขับตามมาเปิดไฟสูงใส่จะตีคู่มากับรถเรา

ช่วงจังหวะถนนโล่งเปลี่ยวเลยปั้มน้ำมันเจ้กุหลาบไปประมาน 200 เมตร มันเร่งเครื่องตีคู่มา ปิดไฟรถเอาผ้าปิดหน้ายื่นมือมาจับน่าอกแล้วกะจะผลักให้รถล้มลงไปข้างป่าหญ้า ยังดีที่เรามีสติเอาเท้าถีบไปที่รถคนร้าย รถมันเอียงออกไปอีกทางช่วงจังหวะมีแสงไฟรถอีกฝั่งส่องมาพอดีมันเลยไหวตัวทัน หนีไปได้ แต่ตอนนี้ได้ไปแจ้งความไว้แล้วค่ะ ฝากเตือนทุกคนให้ระวังตัวกันด้วยนะคะ #ตามจับให้ได้ทีเถอะ”

หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีการแชร์และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยมีหลายคนบอกว่ามีคนเคยเจอเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันมาก่อนหน้านี้ และรูปร่างของผู้ก่อเหตุก็มีลักษณะเหมือนกันด้วย

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

จากการสอบถาม น.ส.ฝน (นามสมมติ) เหยื่อสาวและเป็นเจ้าของโพสต์ดังกล่าว ได้เปิดเผยว่า หลังจากเลิกงานเวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2275 ถนนสายวิเชียรบุรี-โคกปรง พอผ่านซอยวัดประชานิมิต ก็มองเห็นมีรถจักรยานยนต์ขับเลี้ยวออกมาจากซอยแล้วเลี้ยววนกลับรถตามมา ซึ่งเป็นช่วงที่ออกจากตลาด ถนนมืดและเปลี่ยว

“โดยจักรยานยนต์คันที่ตามมาเปิดไฟสูงใส่ และเร่งเครื่องไล่ตามมาจนทันที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 58 ห่างจากปั้มน้ำมันเจ้กุหลาบ ประมาน 200 เมตร คนร้ายได้ขับรถประกบ พร้อมดึงผ้าขาวม้าที่พันคอมาปิดหน้าเห็นแค่ดวงตา และปิดไฟหน้ารถ ก่อนที่จะยื่นมือมาจับที่หน้าอกบีบและผลัก ดิฉันจึงใช้เท้าถีบจนรถคนร้ายเบนออกไป โชคดีที่มีรถวิ่งสวนมาหลายคัน ทำให้คนร้ายเลี้ยวกลับรถหนีไป ส่วนดิฉันทั้งกลัวและตกใจมาก จึงบิดคันเร่งหนีอย่างสุดชีวิต” น.ส.ฝน กล่าว

น.ส.ฝน กล่าวต่อว่า พอไปถึงบ้านญาติที่ ต.โคกปรง ตนจึงโทรศัพท์ตามให้สามีมารับไปแจ้งความที่ สภ.วิเชียรบุรี โดยไม่คิดเลยว่าถนนเส้นทางนี้ ที่ตนใช้เดินทางมาที่ทำงานและกลับบ้านหลังเลิกงานเป็นประจำทุกวัน ตลอดระยะเวลากว่า 3 เดือนจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ จึงอยากจะฝากให้ผู้ที่ใช้เส้นทางดังกล่าวได้ใช้ความระมัดระวัง รวมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายกว่าตนเองก็เป็นได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน