ธัญญา ชี้ดีเอสไอ ยังไม่พาดพิงจนท.อุทยานฯ ชัยวัฒน์ ร้อนใจ ร่อนหนังสือแจง ปมบิลลี่ตาย!
วันที่ 4 ก.ย. นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ได้รายงานต่อผู้บังคับบัญชาจริง ซึ่งในรายงานเป็นข้อมูลการแถลงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอในวานนี้ (3 ก.ย.) ในคดีของนายพอละจี่ รักจงเจริญ หรือบิลลี่
รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับที่น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยานายบิลลี่ ที่ได้ยื่นคำร้องต่อศาล ว่านายชัยวัฒน์เคยควบคุมตัวบิลลี่ ในปี 2557 โดยศาลชั้นต้นได้ไต่สวนมีคำสั่งยกคำร้องไปแล้วนั้น ซึ่งในรายงานที่นายชัยวัฒน์ส่งมานั้นไม่ได้มีอะไร เพียงแต่เป็นข้อมูลเดิมๆ ที่ผ่านมา
นายธัญญา กล่าวว่า ณ ตอนนี้ทางดีเอสไอยังไม่ได้พาดพิงถึงเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ยังไม่มีแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นตามกฎหมายยังถือว่าเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เป็นผู้บริสุทธิ์ ยังไม่ได้เป็นแม้แต่ผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหา แต่ตราบใดที่ทางดีเอสไอได้สอบสวนแล้วพบว่าเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ต้องว่าไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งตนไม่ได้เข้าข้างใคร และเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย แต่เรื่องนี้ต้องรอให้ดีเอสไอได้หาพยานหลักฐานการตายของนายบิลลี่อย่างชัดเจนเสียก่อน ทางกรมอุทยานฯ พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ทั้งนี้ เนื้อหาในรายงาน ระบุว่า เรียน ผู้บริหาร เรื่อง กรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงข่าวกรณีนายบิลลี่ สืบเนื่องจากกรณีนายบิลลี่ หายตัวไป เมื่อปี 2557 ต่อมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับเป็นคดีพิเศษ และลงพื้นที่เพื่อสืบสวน จากนั้น วันที่ 3 กันยายน 2562 ได้แถลงผลความคืบหน้า ดังนี้
พบชิ้นส่วนกระดูก จำนวน 2 ชิ้น ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร จำนวน 1 ถัง เหล็กเส้น จำนวน 2 เส้น ถ่านไม้ จำนวน 4 ชิ้น และเศษฝาถังน้ำมัน จากนั้น ได้ส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ทำการตรวจพิสูจน์พบว่า “วัตถุเป็นชิ้นส่วนกระดูกกะโหลกศีรษะข้างซ้ายของมนุษย์
และตรวจพบว่าสารพันธุกรรมตรงกับ นางโพเราะจี รักจงเจริญ มารดาของนายพอละจี่ รักจงเจริญ จึงเชื่อว่า วัตถุดังกล่าวเป็นกระดูกของ “นายพอละจี่ รักจงเจริญ ที่เสียชีวิตแล้ว นอกจากนั้น พบชิ้นส่วนกระดูกเพิ่มเติมอีกจำนวน 20 ชิ้น ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ
น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยานายบิลลี่ ยื่นคำร้องต่อศาล ว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย.57 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หน.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จับกุมและควบคุมตัวนายพอละจี พร้อมยึดรถจักรยานยนต์และน้ำผึ้งเป็นของกลาง แต่นายชัยวัฒน์ไม่ได้นำตัวนายพอละจีไปดำเนินคดี จนกระทั่งปัจจุบันไม่มีผู้ใดพบเห็นหรือสามารถติดต่อนายพอละจีได้
เชื่อว่า นายพอละจียังอยู่ในความควบคุมของนายชัยวัฒน์ อันเป็นการควบคุมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ขอให้มีคำสั่งปล่อยนายพอละจี และให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืช กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเยียวยาความเสียหายตามที่ศาลเห็นสมควร
ทั้งนี้ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งยกคำร้อง ,ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน และ ผู้ร้องฏีกา พิพากษายืน
