บิลลี่หาย อีกปมแก่งกระจานวืดมรดกโลก เมียเผยคดีอืด 5 ปีไม่คืบหน้า!
ความคืบหน้าหลังที่ กลุ่มป่าแก่งกระจาน ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยคณะกรรมการมรดกโลกให้ประเทศไทยไปทำข้อมูลเพิ่มเติมอีก 3 อย่าง คือ 1.ให้ดำเนินการเรื่องขอบเขตระหว่างไทย-เมียนมา 2.ให้ไปทำข้อศึกษาเปรียบเทียบเรื่องขอบเขตพื้นที่ที่ลดลงว่ายังอยู่ภายใต้ข้อกำหนดตามระเบียบข้อที่ 10 ของการขึ้นแหล่งมรดกทางธรรมชาติ และ 3.ให้ไปทำข้อห่วงกังวลเรื่องชุมชนในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ถือเป็นแนวทางที่ดีต่อประเทศ ไทยที่ยังมีโอกาสได้ทำข้อเสนอทางเทคนิค เพื่อกลับมาขึ้นทะเบียนมรดกโลกอีกครั้งในระยะเวลา 3 ปีนับจากนี้
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ต่อประเด็นข้อกังวลเรื่องชุมชน กรณีการละเมิดสิทธิชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่ และการหายตัวอย่างลึกลับของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
น.ส.วราภรณ์ อุทัยรังษี ทนายความสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ที่เป็นดูแลคดีการหายตัวไปของบิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีดังกล่าวว่า หนึ่งในสามข้อกังวลของคณะกรรมการที่พิจารณาการขึ้นทะเบียนป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลกคือเรื่องประเด็นความขัดแย้งระหว่างชุมชนกะเหรี่ยงกับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
ซึ่งหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือการหายตัวไปของนายพอละจี ชาวกะเหรี่ยงที่ลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิให้กับชุมชนของตัวเอง โดยหายตัวไประหว่างที่มีการฟ้องร้องคดีความระหว่างชาวบ้านกะเหรี่ยงกับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ทนายความสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน กล่าวต่อว่า เป็นทราบกันดีว่าบิลลี่ ซึ่งเป็นผู้ประสานงานคดีระหว่างชาวบ้านกับทนายความขณะนั้น ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งชาติจับกุม ควบคุมตัว และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ตั้งแต่ วันที่ 17 เม.ย.2557
จนถึงปัจจุบัน คดีอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว แต่คดียังไม่ได้คลี่คลายว่า บิลลี่หายไปไหน เกิดอะไรขึ้นกับบิลลี่ เขาถูกใครทำให้หายไป ซึ่งในเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องเร่งทำให้คดีนี้มีความกระจ่างโดยเร็ว เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับครอบครัวของบิลลี่
ด้าน น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาของบิลลี่ กล่าวว่า หลังทราบข่าวว่ากลุ่มป่าแก่งกระจานไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้น สิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐต้องทำคือแก้ปัญหาให้ชาวบ้านบางกลอย-โป่งลึก ตอนนี้พวกเขาใช้ชีวิตกันอย่างยากลำบาก เพราะไม่มีที่ดินทำกิน และไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตตามวิถีที่ยึดถือมา ซึ่งถ้ารัฐแก้ปัญหาได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านไม่เคยคัดค้านการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก แต่พวกเขาแค่อยากให้มีการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการจัดสรรที่ดินให้ชาวบ้านมีที่อยู่อาศัย และพื้นที่ทำไร่ ปลูกข้าว และพืชผักต่างๆเหมือนที่เคยทำมา แต่ตอนนี้เขาไม่มีข้าวกิน ปลูกพืชในที่ซ้ำๆก็ทำให้ได้ผลผลิตที่ไม่ดี และมากพอเลี้ยงครอบครัว
ภรรยาบิลลี่ กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนคดีความการหายตัวไปของพี่บิลลี่นั้น ตอนนี้มีดีเอสไอลงมาเก็บหลักฐาน และข้อมูลต่างๆเพื่อคลี่คลายคดี แต่ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร โดยล่าสุดได้พบวัตถุบางอย่างในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งได้นำไปตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับแม่ของบิลลี่แล้ว แต่ผลยังไม่ออกว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้ก็ยังรออยู่ และอยากให้คลี่คลายคดีโดยเร็ว
ส่วนเรื่องที่ ป.ป.ท. กรณีการกล่าวหาว่า นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทธยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก็เงียบไปเลยไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ทั้งที่เวลาผ่านมานานแล้ว
- อ่าน เปิดปูมเบื้องลึก กลุ่มป่าแก่งกระจาน ชวดเป็นมรดกโลก ปัญหาชาวบ้านไม่แก้ แต่ยังดื้อไปเสนอ
- อ่าน กะเหรี่ยงบางกลอย ยื่นหนังสือ ขอให้แก้ปัญหา ก่อนขึ้นทะเบียนมรดกโลกป่าแก่งกระจาน
- อ่าน แก่งกระจาน วืดมรดกโลก เหตุแจงเรื่องปักปันเขตแดน-สิทธิมนุษยชนกลุ่มชาติพันธุ์ ไม่ทัน
