‘บิ๊กอวบ’ แถลงผลจับกุมยาเสพติด รอบ1ปี 3.5แสนคดี ของกลางมูลค่า 60,000 ล้าน

‘บิ๊กอวบ’ / เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ บช.ปส. (กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร./ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.

พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร และเจ้าหน้าที่ บช.ปส. ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติของ ศอ.ปส.ตร. ในรอบปีงบประมาณ พ.ศ.2562

โดนยึดยาบ้ากว่า 500 ล้านเม็ด ไอซ์ 15 ตัน ยาเสพติดอื่นๆ รวมมูลค่า 60,000 ล้านบาท และแถลงการจับกุมคดีน่าสนใจล่าสุด 7 คดี

ยึดทรัพย์เจ้เบนซ์

คดีแรก เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปส.2 บช.ปส. จับกุมตัวนายยุทธศักดิ์ หรือกล้วย ต้นกันยา อายุ 34 ปี ได้ที่บ้านใน ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู และน.ส.ณัฐวลัญช์ภร หรือเจ้เบนซ์ นิวัตติ์พลกุล อายุ 38 ปี ได้ที่บ้านใน ต.หนองยาว อ.เมือง จ.สระบุรี

พร้อมของกลางทรัพย์สินที่ยึดตรวจสอบ มูลค่ารวมประมาณ 10 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านจำนวน 3 หลัง มูลค่า 8 ล้านบาท รถยนต์ 3 คัน มูลค่า 1.9 ล้านบาท รถจยย. 4 คัน มูลค่า 200,000 บาท

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการล่อซื้อยาบ้าจำนวน 500,000 เม็ด จากนายณรงค์ หรือตุ้ย วรานนท์ นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ซึ่งมีความเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี

โดยที่นายณรงค์แจ้งว่ามียาเสพติดไม่พอและติดต่อให้ น.ส.ณัฐวลัญช์ภร เป็นผู้ดำเนินการแทน แต่กลับแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่ายาเสพติดไม่พอเช่นกัน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงออกอุบายให้นำยาเสพติดตัวอย่างมาดูก่อนจำนวน 1 มัด หรือประมาณ 2,000 เม็ด จากนั้นได้ตกลงกันและนัดสถานที่ส่งมอบยาเสพติดที่ จ.สมุทรปราการ

เมื่อถึงเวลานัดหมายพบนายยุทธศักดิ์ ได้นำยาเสพติดจำนวน 2,000 เม็ด มาส่งให้กับเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ซึ่งขณะจับกุมตัวนั้นนายยุทธศักดิ์ ได้ไหวตัวใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่และหลบหนีทิ้งยาเสพติดและรถจยย.ไว้

ตำรวจทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ กระทั่งจับกุมตัวได้ที่บ้านพักใน จ.อุบลราชธานี และขยายผลจับกุม น.ส.ณัฐวลัญช์ภร ได้ที่บ้านพักใน จ.สระบุรี ก่อนแจ้งข้อหานายยุทธศักดิ์ว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

และสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน ,พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ,มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร”

ส่วนน.ส.ณัฐวลัญช์ภร ถูกดำเนินคดีข้อหา “สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน” ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. และประสานเจ้าหน้าที่ ปปง. ตรวจสอบทรัพย์สินที่ตรวจยึดมาต่อไป

เครือข่าย “ตุ้ย ตู้เย็น”

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ บก.ปส.2 บช.ปส. ดำเนินการสืบสวน และขยายผลคดียาเสพติดรายสำคัญเครือข่าย “ตุ้ย ตู้เย็น” ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการตามยุทธการสยบไพรี 62/21

พบว่าเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 61 บก.สส.ภ.1 จับกุมนายวราวุฒิหรือหม่ำ จันทร์เงิน พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 386,000 เม็ด ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน นายวราวุฒิสารภาพว่าได้รับคำสั่งจากนายณรงค์ หรือตุ้ย วรานนท์ ให้ไปรับยาบ้าจำนวน 516 มัด จากนายกิตติไกร ชัยยงยศ (ทราบชื่อใน ภายหลัง) ไปส่งให้กับลูกค้า

จากนั้นเมื่อวันที่ 6 ม.ค.62 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.1 และ บก.ปส.2 ได้ร่วมกันจับกุมนายกิตติไกรขณะลำเลียง ยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 856,000 เม็ด

จากการสืบสวนขยายผลติดตามเส้นทางการเงินและความเชื่อมโยงทางโทรศัพท์ ปรากฏพยานหลักฐานชัดเจนว่า นายณรงค์เป็นเจ้าของยาเสพติดดังกล่าวและเป็นผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง จึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับนายณรงค์ จนกระทั่งมาจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คนได้ดังกล่าว

ซึ่งขณะนี้นายณรงค์ หรือตุ้ย วรานนท์ ยังคงหลบหนีกบดานตัวอยู่ ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนอย่างละเอียดเนื่องจากนายณรงค์นั้นเป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป

 

จับไอซ์200โล
คดีที่สอง เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 16 ก.ย. เจ้าหน้าที่ชุด บก.สกส.บช.ปส. และบก.ขส.บช.ปส. ได้ร่วมกันทำการจับกุมผู้ต้องหารวม 3 คน คือนายอนันท์ ก้องประภากุล อายุ 27 ปี นายยุทธ วัฒนโชคกุล อายุ 31 ปี และนายอนุสรณ์ แซ่ว่าง อายุ 41 ปี
พร้อมของกลางเป็นไอซ์น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม รถบรรทุกส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง หลังลอบขนยาเสพติดจากชายแดนภาคเหนือเพื่อลำเลียงเข้าสู่ภาคกลาง ก่อนมาถูกจับกุมได้บริเวณริมถนนสระบุรี-หล่มสัก หน้าจุดสกัดบ้านโตก จ.เพชรบูรณ์

คดีที่สาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 และ บก.ขส.บช.ปส. ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 4 คน คือนายจรรยวรรธน์ หรือจุล อัศววีระวงศ์ อายุ 27 ปี นายสมพร หรือภาคย์ พรมชาติ อายุ 27 ปี นายเด่นภูมิ หรือบุ้ง คงสุวรรณ์ อายุ 22 ปีและนายณัฐศักดิ์ หรือเอ็ม ถนอมศักดิ์ อายุ 22 ปี

พร้อมของกลางยาบ้า 60,000 เม็ด ไอซ์ 1,100 กรัม เคตามีน 100 กรัม กัญชา 500 กรัม อาวุธปืนสั้นขนาด .38 พร้อมเครื่องกระสุน 1 กระบอก รถยนต์ 3 คันและโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง โดยจับกุมได้ขณะนำยาบ้ามาส่ง ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ต่อเนื่องปั๊มปตท.เอ็นจีวี ถ.รังสิต-นครนายก จ.ปทุมธานี และบ้านพักใน ต.ราษฎรพัฒนา อ.สามโก้ จ.อ่างทอง

 

ยึดยาอีส่งทางพัสดุ

 

คดีที่สี่ เมื่อวันที่ 22 ก.ย. เจ้าหน้าที่ บช.ปส. จับกุมนางสุจิตมา หรือจั่น อุตมกุล อายุ 51 ปี นายบุญเลิศ ขอนทอง อายุ 52 ปี นายนรากรณ์ ขอนทอง อายุ 33 ปี พร้อมของกลางเป็นยาเอ็คซ์ตาซี (ยาอี) 24,000 เม็ด ยาบ้า 100 เม็ด ไอซ์ 0.62 กรัม เฮโรอีน 800 กรัม และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง

สืบเนื่องจากเมื่อ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ชุดจับกุมได้ตรวจยึดพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ต้นทางจากประเทศเบลเยี่ยม ปรากฏชื่อที่อยู่ผู้รับที่ จ.กำแพงเพชร ซุกซ่อนยาเสพติดส่งเข้ามาประเทศไทย ผ่านบริษัทขนส่งพัสดุระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง

จึงได้ร่วมกันตรวจสอบพัสดุดังกล่าวพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เอ็คซ์ตาซี) เม็ดสีส้ม รวมกันประมาณ 24,000 เม็ด บรรจุในถุงเม็ดกาแฟคั่วยี่ห้อหนี่งปะปนมากับขนมขบเขี้ยว และกาแฟสำเร็จรูปอื่นๆ จึงยึดไว้เป็นของกลาง

ก่อนขยายผลโดยการประสานความร่วมมือกับ สภ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร นำส่งพัสดุไปยังผู้รับตามชื่อ ที่อยู่ที่แจ้งไว้บนกล่องพัสดุจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสามคน พบยาเสพติดของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ประมาณ 100 เม็ด, ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ประมาณ 0.62 กรัม, ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ประมาณ 800 กรัม จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติอีก 3 คดี จำนวน 3 คน ประกอบด้วยนายอะเชลี อาเจ อายุ 34 ปี สัญชาติอิวัวเรียน ประเทศไอวอรี่โคสต์ พร้อมของกลางโคคาอีนทั้งสิ้น 72 ก้อน น้ำหนักประมาณ 1,600 กรัม นางออดดอช ซูซาน แอนยาโก อายุ 38 ปี สัญชาติเคนยา

พร้อมของกลางโคคาอีนทั้งสิ้น 100 ก้อน น้ำหนักประมาณ 1,400 กรัมและนายโอเก็ทโตกุน ออสมาน อายุ 39 ปี สัญชาติเบนิน พร้อมของกลางโคคาอีนทั้งสิ้น 62 ก้อน น้ำหนักประมาณ 1,000 กรัม

บิ๊กอวบแถลงผลงานรอบปี

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยถึง ภาพรวมการปราบปรามยาเสพติด ของศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 ถึง 18 กันยายน 2562

สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 350,807 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 364,857 คน ยึดยาบ้าได้ 512,164,453 เม็ด ไอซ์ 14,888 กิโลกรัม เฮโรอีน 822 กิโลกรัม โคเคน 24 กิโลกรัม เคตามีน 723 กิโลกรัม

มูลค่ายาเสพติด 57,510 ล้านบาท ยึดทรัพย์ 6,995 รายมูลค่า 3,061 ล้านบาท รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 60,571 ล้านบาท ซึ่งถือว่าการปฎิบัติการของตำรวจสามารถลดจำนวนผู้เสพ ผู้ค้า และทำให้ครอบครัวปลอดยาเสพติดเพิ่มขึ้นด้วย

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน