ที่แท้เป็นอดีตพนง. แต่งชุดไปรษณีย์ปล้นทอง อ้างประชดเมีย ฮือรุมประชาทัณฑ์ เผยเคยรู้ลู่ทางเป็นอย่างดีเพราะเคยเป็นพนักงานเก่า จำวิธีก่อเหตุจากออนไลน์ พฤติกรรมคนร้ายจากชายแดนใต้
จากกรณีมีคนร้ายแต่งชุดไปรษณีย์ ใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำน้ำหนักรวม 3 บาท 50 สตางค์ ภายในห้างเพชรทองออโรร่า ร้านไทยวัสดุ สาขาบางแก้ว ถนนบางนา-ตราด ขาเข้าหลักกิโลเมตรที่ 8 หมู่ 13 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยคนร้ายนำกล่องพัสดุที่อ้างว่าเป็นระเบิดเข้าไปวางไว้ที่บนตู้โชว์ของร้าน และใช้ปืนจี้บังคับให้พนักงานกวาดสร้อยทองใส่ถุงที่เตรียมมา ก่อนขับรถตู้ ยี่ห้อโยต้า สีขาวคาดแดง ทะเบียน 1 ฒน150 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของบริษัท ไปรษณีย์ไทย หลบหนีไป กล้องวงจรปิดของห้างทองและร้านไทยวัสดุจับภาพไว้ได้ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
- อ่านข่าว โจรแต่งชุดไปรษณีย์ ขู่มีระเบิด ปืนจี้พนง. ชิงทองกลางห้างดัง ขึ้นรถไปรษณีย์เผ่นหนี
- อ่านข่าว ไปรษณีย์ไทยแจง โจรแต่งชุดไปรษณีย์ ปล้นทองไม่ใช่พนักงาน ฉกรถตู้มาก่อเหตุ
แต่งชุดไปรษณีย์ปล้นทอง / ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 ต.ค. พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทร์สุวรรณ์ ผกก.สภ.บางแก้ว พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน
ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายพงษ์ดนัย หรือโอ๊ต คำเพชรดี อายุ 25 ปี ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 677/2562 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2562 ในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธ ทำตัวประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ และโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ ลงพื้นที่ตรวจสอบสิ่งของที่คนร้ายทิ้งระหว่างหลบหนี ตรวจสอบจากกลุ่มผู้ต้องสงสัย โดยเฉพาะพนักงานไปรษณีย์บางพลีและพนักงานของไทยวัสดุบางนา
กระทั่งวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือนายพงษ์ดนัย หรือ โอ๊ต คำเพชรดี อายุ 25 ปี ชาว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พักอาศัยอยู่ที่คอนโดดังกล่าว จึงตรวจสอบข้อมูลบุคคลพบว่าเคยทำงานเป็นพนักงานที่ไปรษณีย์บางพลี และพนักงานไทยวัสดุบางนา เคยมีประวัติต้องโทษคดียาเสพติดและอาวุธปืน ปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพ
จากการตรวจสอบรูปภาพในเฟซบุ๊กส่วนตัวพบ นายพงษ์ดนัย เคยสวมใส่เสื้อ หมวก กระเป๋าสะพาย และรอยสักที่แขนซ้ายตรงกับของคนร้าย จึงติดตามตัวนายสุชาติ แสงนารี พยานคนขับรถแท็กซี่ที่เห็นหน้าคนร้าย มาดูภาพนายพงษ์ดนัยยืนยันว่าเป็นคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดสมุทรปราการออกหมายจับนายพงษ์ดนัย
โดยกล่าวหาว่า ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธ ทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ และโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ศาลจังหวัดสมุทรปราการ อนุมัติหมายจับนายพงษ์ดนัยผู้ต้องหา ตามหมายจับที่ จ.677/2562 ลง 25 ต.ค.2562 สอบสวนนายพงษ์ดนัย ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นายพงษ์ดนัย ให้การรับสารภาพว่า ตนเคยทำงานอยู่ที่ไปรษณีย์บางพลี และออกมาได้ประมาณ 2 ปี แล้วก่อนที่จะมาทำงานที่ห้างเกิดเหตุ และเพิ่งออกมาได้ไม่นาน และดูพฤติกรรมการก่อเหตุมาจากโลกออนไลน์โดยจำวิธีการมาจากพฤติกรรมของคนร้ายที่ก่อเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และทดลองอยู่หลายวัน จนเกิดความชำนาญจึงมาลงมือก่อเหตุ
โดยเตรียมใส่เสื้อซ้อนกันมาจำนวน 3 ตัว และเข้าไปก่อเหตุลักรถตู้ที่สำนักงานไปรษณีย์บางพลี เนื่องจากรู้ว่ากุญแจรถที่ไปลักมานั้นวางอยู่หน้าคอนโซน จึงเข้าไปลักมาจอดที่ห้างเกิดเหตุ เพื่อดูลาดเลาอยู่พักใหญ่ก่อนลงมาก่อเหตุ เนื่องจากเคยทำงาน จึงรู้เส้นทางว่าไปรษณีย์ที่เข้าไปไม่ต้องถอดหมวกกันน๊อค
หลังก่อเหตุนำรถไปจอดทิ้งไว้ท้ายซอยบางนา 56 ก่อนที่จะถอดเสื้อตัวนอกทิ้ง และเดินวนออกมาอีกซอยหนึ่ง และเรียกรถจักรยานยนต์ที่ขับผ่านมาให้ไปส่งที่ปากซอยลาซาล ก่อนที่จะนั่งแท็กซี่ไปลงที่ 4 แยกบางนา และนั่งรถเมล์เขียวไปลงที่ปากทางเข้าม.เอแบค และว่าจ้างแท็กซี่ให้พามาส่งที่คอนโดดังกล่าว ส่วนประเด็นที่ก่อเหตุ นายพงษ์ดนัยอ้างว่าต้องการประชดเมีย
หลังแถลงข่าวร่วมกันคุมตัวนายพงษ์ดนัย ผู้ก่อเหตุเดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังร้านทอง ระหว่างที่นำตัวนายพงษ์ดนัยลงจากรถตู้ มีพนักงานของไทยวัสดุ แสดงความไม่พอใจและวิ่งเข้ามาจะรุมประชาทัณฑ์ โชคดีเจ้าหน้าที่กันไว้ได้ทัน จึงรีบนำตัวนายพงษ์ดนัย เข้าทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนที่จะรีบคุมตัวกลับมาควบคุมที่สภ.บางแก้ว เพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
