เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 พ.ต.อ.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และหัวหน้าชุด ศปจร.ภ.4 นำตำรวจชุด ศปจร.ภ.4 แถลงผลการตรวจยึดรถยนต์คดีฉ้อโกง พร้อมรถยนต์ของกลางที่ถูกสวมทะเบียนปลอมไปหลอกขายชาวบ้าน 13 คัน
โดยมีนายประวิตร เสียงล้ำ อายุ 60 ปีชาว จ.อุดรธานี เจ้าของรถโตโยต้าวีออส ทะเบียน กจ 448 สกลนคร และนางพิกุล ถาสอสุด อายุ 60 ปี บ้านอยู่ จ.ขอนแก่น เจ้าของรถกระบะเชฟโรเลต ทะเบียน ผธ 1454 ขอนแก่น เดินทางมาพร้อมครอบครัวเพื่อตรวจสอบดูรถของกลางที่ถูกหลอกขายไปเมื่อหลายปีก่อน เพื่อแสดงตัวมารับรถคืนด้วยความดีใจและชื่นชมการทำงานของตำรวจ
พล.ต.ท.จตุพล เปิดเผยว่าช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมามีแก๊งโจรกรรมรถยนต์ส่งไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังนำรถหนีไฟแนนซ์ตามแหล่งรับจำนำมาสวมทะเบียนปลอม และปลอมเอกสารประกอบตัวรถ แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปีนำไปหลอกขายให้บุคคลทั่วไปราคาคันละ 2-3 แสนบาท
เมื่อบุคคลที่หลงเชื่อนำไปใช้ก็จะเกิดปัญหาตามมามากมายเพราะเป็นรถผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานเป็นจำนวนมาก ตำรวจศปจร.ภ.4 จึงออกตรวจสืบสวนจนสามารถตามรถคืนมาได้จำนวน 13 คัน ผู้ที่สงสัยจะเป็นรถของตนที่ถูกขโมยไปให้มาตรวจสอบได้ที่ตำรวจชุด ศปจร.ภ.4
ขณะที่นายประวิตร ผู้เสียหายเปิดเผยว่า รถถูกขโมยไปนานกว่า 3 ปีความรู้สึกตอนนี้ว่าดีใจเหมือนถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ส่วนนางพิกุล กล่าวว่าตนดีใจที่ได้รถคืนเพราะรถตนถูกลักหายไปนานถึง 5 ปีแล้ว คิดว่าจะไม่ได้คืนแล้ว ดีใจมากยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 เสียอีก
