เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงลุง หรือพระสังกาศ สุภาศักดิ์ อายุ 67 ปี พระลูกวัดนิโครธาราม (วัดกุฎิใน) ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ซึ่งประสบอุบัติเหตุถูกตัดขาซ้าย ตั้งแต่เท้าจนถึงหน้าแข้ง มานานเกือบ 1 ปี ทำให้ต้องนั่งรถเข็นไฟฟ้าออกบิณฑบาต ตลอดเส้นทางจากวัด ไปตามถนนเพลินพิทักษ์ และชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาลนครตรัง ระยะทางกว่า 3 กม. ทุกๆ เช้า จนสร้างความเลื่อมใสศรัทธาให้กับผู้ที่ตักบาตรขอพร รวมทั้งผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก เพราะถึงแม้ร่างกายจะพิการ แต่ พระพระสังกาศ ก็ยังคงปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างไม่บกพร่อง

 

หลวงลุง หรือพระสังกาศ กล่าวว่า เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2559 ตนบังเอิญเดินเหยียบเศษก้อนหินระหว่างออกบิณฑบาต จนเท้าซ้ายระบม และแพทย์ได้แจ้งว่า มีก้อนหินฝังลงไปในนิ้วเท้า ประกอบกับตนเองเป็นโรคเบาหวานด้วย ทำให้ต้องตัดนิ้วเท้า 2 นิ้ว และหลังจากนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.เกือบ 2 เดือน อย่างไรก็ตาม เมื่อกลับมาอยู่ที่วัดนิโครธาราม เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ขณะที่ตนช่วยงานวัดทำอิฐบล็อค ได้เกิดพลัดตกลงไปในหลุมเสาอีก ทำให้เกิดอักเสบที่นิ้วเท้าข้างเดิม และรู้สึกเจ็บปวดมาก โดยรักษาอยู่นานเกือบเดือนอาการก็ไม่ดีขึ้น จนในที่สุดจึงปรึกษาแพทย์ขอตัดขาซ้าย เพราะตนเองคิดแล้วว่าขาคงไม่สามารถใช้งานได้เหมือนเดิมอีก ซึ่งขณะนี้แผลหายเกือบสนิทแล้ว แต่เวลาไปไหนมาไหนต้องใช้รถเข็นไฟฟ้า หรือวีลแชร์ ช่วยอำนวยความสะดวก รวมถึงการบิณฑบาตรด้วย

 

“ทุกเช้าก็จะมีญาติโยมมารอใส่บาตรกันปกติ ขณะที่ตนเองคิดว่าเมื่อบวชเป็นพระ ก็ต้องปฎิบัติกิจของสงฆ์ให้ครบถ้วน โดยไม่มีเจตนาสร้างภาพ หรือต้องการเรียกร้องอะไรอย่างที่หลายคนคิด ซึ่งนอกจากออกบิณฑบาตแล้ว ตนเองยังปฎิบัติกิจของสงฆ์ทุกอย่างตามปกติ ทั้งการกวาดลานวัด การดูแลความสะอาดรอบกุฎิ การไปซื้อของ หรือแม้กระทั่งการเดินทางไป รพ.ตามนัด โดยไม่ต้องเป็นภาระผู้อื่น” อย่างไรก็ตาม หลวงลุง หรือพระสังกาศ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับหลักธรรมที่ตนเองยึดถืออยู่เสมอ คือ สังขารไม่เที่ยง เมื่อร่างกายไม่พร้อมจะอยู่ ก็ต้องจากไป ถึงแม้ร่างกายที่เหลือจะไม่สมบูรณ์เหมือนเดิม แต่ตนเองก็มีความสุขได้ เพราะความทุกข์ ความสุข อยู่ที่ใจ “

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน