วันที่ 26 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุวินจยย.รับจ้าง ทะเลาะวิวาทกันบริเวณหน้าเรือนจำกลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงประสานให้สายตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์นำกำลังตำรวจรุดตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบเข้าช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนสายประจวบคีรีขันธ์ หน้าเรือนจำกลางจังหวัดประจวบ พบนายสาโรจน์ อายุ 57 ปี มีอาชีพขับวินจยย.รับจ้าง ลักษณะคล้ายคนเมาสุรา พูดจาเอะอะโวยวายไม่ค่อยรู้เรื่อง มีแผลแตกบริเวณศีรษะ และมีเลือดไหลอาบเต็มใบหน้า สาเหตุจากถูกของแข็งตีเข้าที่บริเวณศีรษะ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นนำตัวส่งโรงพยาบาลประจวบฯ

ซึ่งก่อนหน้านี้นายสาโรจน์ ถูกจับกุมในข้อหาคิดค่าโดยสารแพงเกินราคาที่กำหนด และถูกจับกุมไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก เนื่องจากทะเลาะวิวาทกันด้วยฤทธิ์สุรามาแล้วหลายครั้ง และช่วงก่อนเกิดเหตุได้ทะเลาะวิวาทมีปากเสียงกับหัวหน้าวินเรื่องถูกห้ามรับ-ส่งผู้โดยสารในขณะเมาสุรา จึงเกิดความไม่พอใจชกต่อยกันจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไปโรงพัก และในระหว่างนั้นได้แอบหนีออกมากลับไปบ้านคว้ามีดดาบยาวประมาณ 1 เมตร กลับไปที่วินมอเตอร์ไซค์ปรี่เข้าไปทำร้ายหัวหน้าวิน แต่ถูกหัวหน้าวินใช้กระบองหวดกลับจนศีรษะแตก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยึดอาวุธของกลางเป็นหลักฐาน พร้อมเชิญคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายไปสอบสวนเพิ่มเติมถึงสาเหตุความเป็นมาที่โรงพักอีกครั้ง

จาการสอบถามนายไชยา อยู่หนุน หัวหน้าวินจยย.รับจ้าง กล่าวว่า ที่ผ่านมานายสาโรจน์ ชอบทำตัวสร้างปัญหาทะเลาะวิวาทด่าทอเพื่อนร่วมวินคนอื่นๆ อยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากได้ว่ากล่าวตักเตือนว่าห้ามรับ-ส่งผู้โดยสารขณะเมาสุรา ห้ามขับขี่รถย้อนศร ห้ามคิดค่าโดยสารเกินราคาที่กำหนด และอีกหลายๆ เรื่องจนทำให้หลายๆ คนเอื้อมระอาไม่อยากยุ่งด้วย แต่ในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าวินกลัวเสียลูกค้าและเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงได้ว่ากล่าวตักเตือน ทำให้นายสาโรจน์ ไม่พอใจและด่าทอตนกลับมาทุกครั้ง ซึ่งนายสาโรจน์ เคยเป็นอดีตตำรวจ ตชด.แต่ให้ถูกออกจากราชการ ซึ่งตนไม่ทราบสาเหตุ จึงได้มาขับวินจยย.รับจ้าง ยอมรับว่าเป็นคนใช้ไม้ตีเนื่องจากต้องป้องกันตัวเพราะนายสาโรจน์ ใช้มีดดาบยาวปรี่เข้ามาหมายจะทำร้ายตนดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน