ทหารยอมรับ‘สำคัญผิด’ยิงชาวบ้าน 3 ศพ ยันไม่มีจัดฉาก เร่งเยียวยาญาติสั่งสอบชุดปะทะ

วันที่ 17 ธ.ค. ที่โรงเรียนบ้านอาแน หมู่ 8 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ท.สมพล ปานกุล แม่ทัพน้อยที่ 4 พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมชี้แจงทำความเข้าใจกับญาติผู้เสียชีวิตและชาวบ้าน จากกรณีเจ้าหน้าที่ยิงปะทะบนเขาตะเว แล้วพบผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายฮาพีซี มะดาโอะ อายุ 24 ปี นายบูดีมัน มะลี อายุ 26 ปี และ นายมะนาซี สะมะแอ อายุ 27 ปี เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 16 ธ.ค.ผ่านมา

โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อหน้าญาติผู้เสียชีวิต พร้อมยืนยันความบริสุทธิใจและโปร่งใสต่อการปฎิบัติหน้าที่ ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนเป็นเหตุให้ชาวบ้าน 3 รายเสียชีวิต กองทัพยอมรับในความผิดพลาด สำหรับสาเหตุที่ล่าช้าในการนำศพลงมาเนื่องจากจุดเกิดเหตุห่างไกลและเป็นพื้นที่ป่าเขา ไม่มีสัญญาณสื่อสาร หลังเกิดเหตุได้ให้ตำรวจพิสจน์หลักฐาน ทหาร ฝ่ายปกครอง แพทย์ นักสิทธิมนุษยชน เดินทางขึ้นไปตรวจสอบจุดเกิดว่าไม่มีการสร้างฉาก เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

“จากนี้ไป จำเป็นต้องให้เกิดความยุติธรรม 3 ข้อหลัก 1.นำคนผิดผู้ก่อเหตุมาลงโทษ ตามกฎหมาย 2.การดูและเยียวยา ให้ญาติหรือทายาทให้เกิดความเป็นธรรมทุกราย และ3.ให้องค์กรอิสระ คณะกรรมสิทธิ์มนุษยชนแห่งชาติ โดยมี นายแวดือราแม มะมิงจิ เป็นประธานตรวจสอบข้อเท็จจริง และรายงานคืบหน้าต่อไป เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน สู่กระบวนการยุติธรรม นำพาสันติสุขให้กับพื้นที่”

จากนั้น พล.ท.พรศักดิ์ แถลงชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า จากกรณีหน่วยเฉพาะกิจ ฉก.ทพ. 45 ปะทะกับกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่ายเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตบนเทือกเขาตะเว ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ที่เสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ขอยืนยันว่าจะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน ด้วยความโปร่งใสและพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ แม้เบื้องตันพบว่าเป็นการสำคัญผิดของเจ้าหน้าที่ หากภายหลังพบว่าเจ้าหน้าที่กระทำความผิดด้วยความจงใจ ก็จะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาทหารขั้นสูงสุดโดยไม่มีข้อยกเว้น

จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบ ว่าการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เป็นการยายผลจากเหตุปะทะกับกลุ่มคนร้ายเมื่อ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ หมู่ 13 ต.ตันหยงมัสส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส แต่คนร้ายหลบหนีไปได้ จึงจัดกำลังเข้าไปพิสูจน์ทราบซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่เคยปะทะกับกลุ่มคนร้ายหลายครั้งในห้วงที่ผ่านมา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเจอกับกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่ายประมาณ 9-5 คน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อตรวจสอบแต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้วิ่งหลบหนีพร้อมกับได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3-4 นัด เจ้าหน้าที่จึงยิงตอบโต้และเมื่อเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ส่วนที่เหลือได้หลบหนีไปได้

“ในห้วงที่ผ่านมา กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เปิดแผนเข้ากดดันบังคับไม่ให้กลุ่มคนร้ายในพื้นที่ป่าภูเขาทุกพื้นที่ พร้อมออกคำสั่งห้ามราษฎรขึ้นไปหาของป่า หรือกระทำสิ่งอื่นใดในพื้นที่ป่าภูเขา ซึ่งได้แจ้งผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พื้นที่เทือกเขาเมาะแต และเทือกเขาตะเว ถือเป็นพื้นที่หวงห้ามเด็ดขาดเพราะเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่เคยปะทะกับกลุ่มคนร้ายหลายครั้ง ที่ผ่านมาตรวจยึดฐานที่มั่นบนพื้นที่เขาตะว และเขาเมาะแตได้ถึง 8 ฐาน”

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทั้ง 3 รายเป็นราษฎร์ในหมู่บ้าน ไม่ใช่ผู้ก่อเหตุรุนแรงแต่อย่างใด ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะปฎิบัติอย่างระมัดระวัง แต่ได้สำคัญผิดว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรง เมื่อเกิดความสูญเสียขึ้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนก็ไม่สามารถที่จะปฎิเสธความรับผิดชอบได้ โดยจะต้องเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอนของกฏหมาย พร้อมตั้งคณะกรรมสอบสวนของหน่วยเพื่อดำเนินการกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางวินัย และอาญา ขั้นเด็ดขาด โดยไม่มีข้อละเว้น

นอกจากนี้ยังมอบหมายไห้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ที่เป็นองค์กรอิสระผู้แทนของทุกภาคส่วนที่ได้รับการยอมรับจากคนในพื้นที่ เข้าทำการตามข้อเท็จจริง คู่ขนานอย่างเป็นอิสระด้วยความโปร่งใส เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาให้เหมาะสม และเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่บทสรุปดังกล่าวจะไม่มีข้อพันธะผูกพันทางกฏหมาย และจะรายงานความคืบหน้าการดำเนินการให้ประชาชนทราบเป็นระยะๆต่อไป

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ด้านนางพรวิลัย บวรณรงค์เดช คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนใต้ เปิดเผยว่า ตนเดินทางขึ้นไปดูจุดเกิดเหตุกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย อยู่ในสภาพที่นอนเสียชีวิตอยู่ข้างกองไม้แปรรูป ไม่มีอาวุธปืนแต่อย่างใด และเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้มีการจัดฉาก ขอให้ชาวบ้านทุกคนไว้วางใจการสอบสวนข้อเท็จจริงของเจ้าหน้าที่ ซึ่งตนถือว่าพอใจที่เจ้าหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้เจ้าหน้าที่จะสำคัญผิดว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย เป็นกลุ่มคนร้ายจึงถูกวิสามัญฯ อย่างไรก็ตามรายงานของสิทธิมนุษยชนได้เริ่มต้น การทำงานแล้วนับแต่วันนี้และจะรายงานผลภายใน 7 วัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน