วันที่ 27 เม.ย. นายดวงคำ พรมปัญญา อายุ 59 ปี พร้อมพวกรวม 8 คน ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.จิตเกษม แก้วท่าไม้ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ ว่า พวกตนมีความเดือดร้อนหนักเนื่องจากถูกบริษัทไฟแนนซ์ตามทวงถามหนี้ค่างวดรถและขอให้นำรถที่เช่าซื้อไปแต่ขาดส่งงวดนำมาคืนให้บริษัทไม่งั้นจะถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์

นายดวงคำ ก่อนหน้านี้ พวกตนได้นำรถยนต์เก่าไปขายพร้อมกับซื้อรถมือสองคันใหม่ออกมาจากเต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่ง ย่าน ต.ชุมภูพร อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ โดยจะซื้อให้ในราคาที่สูงหรือตีเทิร์นเป็นเงินดาวน์ยังได้มีเงินทอนมาใช้อีกด้วย ส่วนมากรถที่นำไปขายก็จะเป็นรถที่ยังติดค้างค่างวดอยู่ โดยเจ้าของเต็นท์ดังกล่าว จะเป็นคนรับผิดชอบส่งค่างวดรถคันที่รับซื้อไป ส่วนพวกตนที่ซื้อรถมือสองออกไปก็จะทำสัญญาเช่าซื้อส่งค่างวดเป็นรายเดือนกับเต็นท์ที่รับจัดทำไฟแนนซ์เอง

แต่พอเวลาผ่านไป 6 เดือนพวกตนถูกบริษัทไฟแนนซ์ทวงถามค่างวดรถที่ขายไป หากไม่จ่ายก็ขอให้นำรถมาคืนบริษัทพร้อมค่าทวงถาม พอไปถามครั้งแรกก็บอกว่าไม่มีปัญหาจะจัดการจ่ายค่างวดให้ทุกราย แต่ยังเพิกเฉยอยู่ไปทวงถามอีกทีปิดร้านเชิดเงินหนีค่าเสียหายประมาณ 2 ล้านบาทเศษมีรถยนต์ที่เกี่ยวข้องประมาณ 15 คัน ซึ่งยังไม่รวมรถยนต์ที่อยู่จังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย จึงต้องมาแจ้งความให้ดำเนินคดีเต็นท์รถมือสองดังกล่าว

พ.ต.ท.จิตเกษม ลักษณะดังกล่าวมีเจตนาหลอกลวงผู้เสียหายเพื่อต้องการเงินส่วนต่างที่ได้จากการซื้อขายแลกเปลี่ยนรถยนต์ และเงินที่ได้จากการนำรถยนต์ที่รับซื้อไว้ไปขายต่อให้ผู้อื่นในราคาที่สูงกว่าราคาที่รับซื้อไว้ โดยจะชำระค่างวดให้บริษัทเจ้าของกรรมสิทธิ์รถบางครั้งก็เพื่อประวิงเวลามิให้ผู้เช่าซื้อเดิมถูกทวงถามให้ชำระหนี้ เมื่อผู้เสียหายได้ติดตามทวงถามบ่อยจึงได้ปิดกิจการแล้วเชิดเงิน่หลบหนีไป พฤติการณ์และการกระทำมีความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน