วันที่ 27 เม.ย. พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ถลาง ควบคุมตัวนายธิเบต มานุบุตร นายวรวุฒิ ชูศรีนุ่น และนายรฤทธิ์ บัวคง 3 ผู้ต้องหา เข้าไปค้นหาของกลางตามร้านรับซื้อของเก่า 2 แห่งในเขตพื้นที่อ.ถลาง หลังทั้ง 3 คน ตระเวนขโมยแบตเตอรี่สำรองตามตู้สัญญานอินเตอร์ของบริษัททริปเบิ้ลทรีบร์อดแบนด์ จำกัด (มหาชน) แล้วนำไปขายต่อยังร้านรับซื้อของเก่า โดยสามารถตรวจยึดแบตเตอรี่มาได้ 35 ลูก

พ.ต.อ.สมพงศ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องเจ้าหน้าที่บริษัททริปเบิ้ลทรีบร์อดแบนด์ จำกัด (มหาชน) เข้าแจ้งความว่าแบตเตอรี่สำรองตามตู้สัญญาณอินเตอร์เน็ตกว่า 60 ลูก สูญหายหลาย หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ถลาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ลงพื้นที่แกะรอยติดตามคนร้าย โดยตรวจสอบจากล้องวงจรปิด กระทั่งเมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันตระเวนขโมยแบตเตอรี่ตามจุดต่างๆ จริง โดยเริ่มขโมยมาตั้งแต่วันที่ 19-24 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยรับว่าขโมยแบตเตอรี่มา 38 ลูก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากบริษัททริปเบิ้ลทรีบร์อดแบนด์ จำกัด (มหาชน) ประจำสาขา อ.ถลาง ตรวจสอบพบว่าแบตเตอรี่หายไปไม่ต่ำกว่า 62 ลูก นอกจากนี้ นายณฤทธิ์ ยังสารภาพว่าเหตุที่ชักชวนเพื่อนไปขโมยแบตเตอรี่ เนื่องจากเมื่อประมาณ 1 ปีที่ ผ่านมาตนเคยเป็นลูกจ้างบริษัทรับเหมาติดตั้งตู้อินเตอร์เน็ตให้กับบริษัทดังกล่าวในเขตพื้นที่ อ.ถลาง หลังลาออกจากบริษัทแต่ได้นำกุญแจติดตัวมาด้วย จึงสามารถไขตู้เพื่อขโมยแบตเตอรี่อย่างง่ายดาย

จากนั้นจะนำไปขายตามร้านรับซื้อของเก่าในราคากิโลกรัมละ 17 บาท เงินที่ได้ไปเที่ยวเตร่และซื้อพืชกระท่อมมาผสมเป็นสี่คูณร้อยเสพ นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายยังสารภาพอีกว่าช่วง 2 วันที่ผ่านมาได้ขี่รถจยย. ก่อเหตุกระชากทรัพย์สินจากผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้หญิงอีก 2 ราย โดยทั้ง 2 ราย ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่เกิดเหตุแล้ว และ 1 ในผู้เสียหายบาดเจ็บจนต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ยังเคยก่อเหตุขโมยรถจยย.ยามาฮ่า สกู๊ปปี้ไอ สีดำ ของชาวบ้านมาด้วย

ด้านวสันต์ ตันติพงศ์วิวัฒน์ ผู้จัดการเน็ตเวิร์ค บริษัททริปเบิ้ลทรีบร์อดแบนด์ จำกัด (มหาชน) สาขา อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าแบตเตอรี่สำรองตามตู้สัญญานอินเตอร์หายไปประมาณ 62 ลูก ความเสียหายประมาณ 4 หมื่นบาท แต่ยังมีความเสียหายในส่วนของระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่ต้องตรวจสอบหลังจากนี้ ว่ามีประชาชนที่ใช้บริการเดือดร้อนไปกี่ราย รายละเท่าไหร่แต่คาดว่าความเสียหายน่าจะไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท ซึ่งทางบริษัทจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย อย่างถึงที่สุดเนื่องจากสร้างความเสียหายทั้งกับบริษัทฯและประชาชนผู้ใช้บริการ

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหาทั้ง 3 รายพร้อมของกลางทั้งหมดมาทำบันทึกการจับกุมและส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน