พ่อบุญธรรม เล่าวัยเด็ก หนุ่ย หน้าลาย อ่อนแอกลัวสมคิด ตามหาอยากให้เริ่มต้นใหม่

จากกรณีคดีสะเทือนขวัญ สมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่อง 5 ศพ กลับมาก่อเหตุซ้ำ เป็นรายที่ 6 และสามารถจับกุมตัวไว้ได้ ต่อมาพบว่า ลูกชายนายสมคิด หรือ หนุ่ย หน้าลาย ก็เพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ ท่ามกลางความกังวลว่าลูกชายจะมีพฤติกรรมเหมือนผู้เป็นพ่อหรือไม่

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ในขณะที่มีเฟซบุ๊ก ครูตะวันแห่งที่ราบสูง ได้โพสต์ข้อความ ถึงหนุ่ย หน้าลาย ซึ่งเคยอยู่ในการอุปการะของพ่อครูตะวัน ที่ตั้งมูลนิธิดูแลเด็กกำพร้า เด็กเร่ร่อนมานาน 20 ปี ระบุว่า “หนุ่ยหน้าลายเข้ามาอยู่บ้านเด็กแสงตะวันเมื่ออายุ 8 ขวบ

“ตอนเด็กๆ หนุ่ยเป็นเด็กขี้แย ร้องไห้เก่งพูดจามีเหตุมีผล กล้าพูด มีอะไรจะเล่าไห้พ่อครูฟัง ไม่ชอบโกหกขยันไปเรียนหนังสือ กลับมาก็จะช่วยงานบ้าน นานๆ ถึงจะหนีไปเที่ยวในตัวเมืองอุดร บ้าง ดื้อบ้าง เกเรบ้าง ตามปะสาเด็ก หนุ่ยไปเรียน เริ่มต้น ป.1 ที่โรงเรียน ในหมู่บ้านพ่อครูเคยส่งหนุ่ยไปเรียนประจำที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ แห่งหนึ่ง หนุ่ยก็หนีกลับมา บ้านเด็กแสงตะวัน เคยส่งไปอยู่ที่ ศูนย์ฝึกอบรมเยาวชนฯ ของรัฐ หนุ่ยก็ชอบหนีกลับมา บ้านเด็กแสงตะวัน ส่งไปอยู่สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า ของรัฐหนุ่ยก็หนีออกมา และกลับมาที่ บ้านเด็กแสงตะวัน” พร้อมระบุว่า อยากให้เริ่มต้นใหม่

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายเพชรสยาม เจนหัตถ์นามเสนา อายุ 54 ปี หรือครูหน่อง อดีตเจ้าของบ้านเด็กแสงตะวันสำหรับเด็กเร่ร่อน ซึ่งหนุ่ยนับถือเป็นพ่อบุญธรรม กล่าวว่า เมื่อช่วงปี 39 หรือ 40 ตนเองทำมูลนิธิเด็กเร่ร่อนที่ ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี และได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ จ.ขอนแก่น ว่าให้ไปดูเด็กเร่ร่อนประมาณ 7-8 คนอายุประมาณ 3-5 ขวบไปมั่วสุมดมกาวอยู่แถวห้างแฟร์รี่เก่าที่ จ.ขอนแก่น

ตนเองก็ไปกับทีมงานครูข้างถนนหลายคน จากนั้นก็พยายามพูดคุยกับเขา เขาบอกว่าบ้านอยู่ที่สลัมแถวสถานีรถไฟขอนแก่น เราก็จะพาเด็กกลับบ้าน เขาก็พากันวิ่งเข้าไปในซอย นึกว่าเขาเข้าบ้านแน่นอน หลังจากนั้นเราก็ได้รับแจ้งหลายครั้งจนในที่สุดก็ถามเด็กเหล่านี้ว่า จะกลับไปอยู่บ้านหรือจะมาอยู่ที่สถานสงเคราะห์ แต่ถ้ากลับบ้านต้องขอคุยกับผู้ปกครองโดยตรง

เด็กเหล่านี้ก็เลือกมาอยู่ที่มูลนิธิบ้านแสงตะวันที่ จ.อุดรธานี พอมาอยู่ที่นี่รวมทั้งนายจตุรงค์ เราก็ปรับพฤติกรรมเด็กเหล่านี้ พาไปเข้าโรงเรียนในหมู่บ้าน เขาก็ไปประจำ การแต่งกายก็เรียบร้อย กลับมาก็รู้จักเก็บเงิน จะไปไหนก็ขออนุญาต พูดจามีครับมีผม จะดื้อจะซนบ้างก็ตามประสาเด็ก ดูหนุ่ยเขาก็ปรับตัวดีเล่นกีฬาเก่งด้วย พูดจาเพราะถือว่าเป็นเด็กมีสัมมาคารวะ

“เขามาอยู่กับผมที่บ้านแสงตะวันประมาณ 5 ปีผมปิดบ้านแสงตะวันเมื่อประมาณปี 47 หลังจากนั้นเด็กๆ ก็แยกย้ายกันไปคนละทิศละทางจากนั้นผมก็ไม่ได้เจอหนุ่ยอีกเลย จนมารู้เป็นข่าวเพจคุ้ยประวัติเขานี่เอง และหลังจากมีเฟสบุ๊กบางแห่งได้โพสต์ประวัติของนายสมคิด และประวัติของหนุ่ยไปด้วยและกล่าวถึงบ้านแสงตะวัน ซึ่งสมัยก่อนผมเองดูแลอยู่ แต่ตอนนี้ปิดไปแล้ว”ครูหน่อง กล่าว

ลูกชายสมคิด

ครูหน่อง กล่าวต่อว่า ตนเองอ่านดูแล้วทำไมพฤติกรรมของหนุ่ยต่างกับนิสัยตอนเด็กๆ เพราะเขาเป็นเด็กลูกแหง ชอบร้องไห้ มีอะไรก็จะมาเล่าให้พ่อฟัง เขาเป็นเด็กอ่อนไหว ค่อนข้างไม่ก้าวร้าวถึงกับอ่อนแอด้วยซ้ำถึงกับเราต้องพาไปเล่นฟุตบอลและมวยด้วยซ้ำ ซึ่งสื่อที่ออกมาออกมาในด้านเดียว ซึ่งมุมมองของผมตอนเขาอยู่กับผมไม่ใช่คนอย่างนั้น เขาเป็นเด็กที่ค่อนข้างเป็นคนดีคนหนึ่งเลยทีเดียว

ตอนที่หนุ่ยอยู่ที่มูลนิธิบ้านแสงตะวันกับผม พ่อของเขาคือนายสมคิด พุ่มพวงเคยมาเยี่ยม 1 ครั้งเมื่อประมาณปี 42 แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าสมคิดเป็นอะไรอย่างไรหรืออย่างนี้ ก็เหมือนพ่อมาเยี่ยมลูกทั่วไป เขาก็เอาข้าวขนมเหมือนเอามาจากวัดมาฝากลูกชายด้วย และดูการพูดคุยของสมคิดกับลูก พ่อจะดุ ลูกของสมคิด ไม่กล้าคุยกับพ่อ เหมือนกลัวพ่ออย่างนั้น

“ที่ออกมาพูดวันนี้เพื่อออกมาเปิดใจอยากเจอลูกชายคนนี้มาก ไม่อยากให้เขาหลบอยู่มุมมืดอีกต่อไปเขาไม่สามารถเปิดเผยตัวเองได้ เพราะ 3 วันที่แล้วได้ข่าวว่าอยู่อุดรธานี แต่พอมีข่าวเรื่องเขาด้วยตอนนี้ได้ยินข่าวว่าเขาอยู่บุรีรัมย์ อยากให้เขากลับมาหาผม ติดต่อกลับมาหากเขารู้สึกไม่มีที่ปลอดภัย นอกจากผมก็มีอีกหลายคนพร้อมให้อภัย ดีกว่าที่เขาจะไปเสี่ยงอยู่อย่างนั้นและอยากให้สังคมเข้าใจด้วย พ่อเลวใช่ว่าลูกจะเป็นอย่างพ่อทุกรายไป พ่อบุญธรรมคนนี้พร้อมอ้าแขนรับให้ลูกกลับมาหา ที่สำคัญอดีตผ่านไปแล้วอยากให้กลับเนื้อกลับตัว เริ่มชีวิตใหม่นะลูก” พ่อบุญธรรม หนุ่ย หน้าลาย กล่าวตอนท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน