แจงแล้วเหตุ สาวกู้ภัย ซดน้ำยาล้างห้องน้ำฆ่าตัว คณะกรรมการยันไม่ได้กลั่นแกล้ง เผยไม่เคยต่อว่าสาวกู้ภัยด้วยคำหยาบคาย ไม่ได้ตัดเงินเดือน แต่สั่งย้ายให้ไปดูงาน 15 วัน

สาวกู้ภัย / กรณีสาวกู้ภัยมูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊งสว่างเมตตาธรรมสถาน จ.นครราชสีมา รายหนึ่ง อัดคลิปวิดีโอตัดพ้อถูกกรรมการมูลนิธิฯ กลั่นแกล้ง ให้ย้ายงานและตัดเงินเดือน ก่อนที่จะซดน้ำยาล้างห้องน้ำ เพื่อหวังฆ่าตัวตายหนีปัญหา พร้อมกับเขียนจดหมายลาตายไว้ โชคดีที่สามีไปพบเห็นระหว่างกำลังยกขวดน้ำยาล้างห้องน้ำซด ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งแพทย์ระบุว่า พ้นขีดอันตรายแล้ว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่มูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊งสว่างเมตตาธรรมสถาน จังหวัดนครราชสีมา พบกับ นายณัฐพล ก่ำโพธิ์ อายุ 33 ปี สามีของสาวกู้ภัย ที่ซดน้ำยาล้างห้องน้ำฆ่าตัวตาย ได้รับการ เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 05.30 น. รุ่งเช้าวันที่ 6 ม.ค. หลังจากที่ตนเองตื่นขึ้นมา เพื่อเตรียมที่จะไปทำงานปกติ ก็พบว่าด้านหน้าบ้านเปิดไฟไว้หลายดวง จึงลงไปดู ปรากฏว่าเห็นภรรยากำลังยกขวดน้ำยาล้างห้องน้ำซดไปหลายอึก จึงพุ่งเข้าไปคว้าขวดออกจากปาก และรีบเอามือล้วงคอ เพื่อให้ภรรยาอาเจียนออกมา หลังจากนั้นก็หาไข่ไก่มาป้อนให้ภรรยากิน เพื่อให้อาเจียนล้างน้ำยาออกจากท้องให้หมด ก่อนที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

ซึ่งขณะนี้แพทย์ระบุว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว นับว่าโชคดีที่ตนเองไปเห็นก่อน ไม่เช่นนั้นภรรยาคงจะกินน้ำยาล้างห้องน้ำไปมากกว่านี้ และไม่สามารถช่วยเหลือได้ทันแน่นอน เพราะน้ำยาล้างห้องน้ำมีฤทธิ์เป็นพิษซึมไปทั่วร่างกายได้รวดเร็วมาก

ส่วนสาเหตุของการคิดฆ่าตัวตายครั้งนี้ ตนก็คาดว่าจะเกิดจากความเครียดในที่ทำงาน เพราะตนได้ยินภรรยาบ่นให้ฟังว่า ถูกกรรมการมูลนิธิฯ ในที่ทำงานบีบคั้นหลายอย่าง เช่น ลดเวลาทำงาน เปลี่ยนแปลงเวลาทำงาน ลดค่าแรง และใช้คำพูดที่รุนแรงถึงขั้นว่าถ้าหากทำไม่ได้ก็ไม่ต้องมาทำงาน นอกจากนี้ ยังจะสั่งย้ายภรรยาของตนเองไปฝึกงานใหม่ที่สุสาน ทั้งที่ภรรยามีประสบการณ์ทำงานมานานกว่า 12 ปีแล้วก็ตาม

ประกอบกับครอบครัวของตน ก็มีรายได้น้อย ภรรยาต้องส่งหนังสือพิมพ์ตอนเช้า ช่วงบ่ายทำงานที่มูลนิธิฯ รายได้เดือนละ 9,000 บาท ส่วนตนทำงานที่ร้านประดับยนต์ และมาอาสาสมัครกู้ภัยช่วยมูลนิธิฯ เช่นกัน แต่ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายมาก ไม่ว่าจะเป็น ค่าใช้จ่ายส่งลูก 2 คนเรียนหนังสือ ส่งค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถยนต์ และค่ากินค่าอยู่ในครอบครัว ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก เมื่อรายได้ลดน้อยลง และถูกบีบบังคับสารพัดเช่นนี้ ภรรยาจึงเกิดความเครียด และคิดฆ่าตัวตายดังกล่าว

ต่อมานายอภิเชษฐ์ สันติเศรษฐสิน อายุ 66 ปี หรือเฮียซัม คณะกรรมสำนักงานมูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊งสว่างเมตตาธรรมสถาน จ.นครราชสีมา ที่ถูกสาวกู้ภัยกล่าวถึงในคลิป พร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิฯ ที่ปรากฎชื่อในจดหมายลาตายของสาวกู้ภัยทั้ง 5 คน ออกมาชี้แจงข้อกล่าวหาที่สาวกู้ภัยระบุว่า ถูกกลั่นแกล้ง โดยนำไปดูอาคารบริจาคโลงศพหน้ามูลนิธิฯ ซึ่งระบุว่าเป็นจุดต้นเหตุทำให้เกิดความไม่พอใจของสาวกู้ภัยจนต้องทำให้คิดสั้นฆ่าตัวตาย

นายอภิเชษฐ์ กล่าวว่า ยอมรับว่ากู้ภัยสาวคนนี้ทำงานอยู่ที่อาคารบริจาคโลงศพหน้ามูลนิธิฯ มานานกว่า 12 ปีแล้ว แต่เมื่อคณะกรรมการชุดใหม่เข้ามา ก็ต้องการที่จะปรับปรุงรูปแบบบริเวณจุดรับบริจาคโลงศพใหม่ โดยขยับโต๊ะที่นั่งเจ้าหน้าที่รับบริจาคออกมาให้อยู่ด้านหน้าอาคาร เพื่อให้ประชาชนเห็นชัดเจนมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้โต๊ะตั้งอยู่ข้างใน ห่างจาดจุดปัจจุบัน 2 เมตร ทำให้คนมองไม่เห็น จึงเดินผ่านไปโดยคิดว่าไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่ เมื่อย้ายโต๊ะออกมาแล้วก็ทำให้สาวกู้ภัยไม่พอใจ

หลังจากนั้นจะสั่งให้ทำอะไรก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ รวมถึงไม่เข้าร่วมประชุมฟังคำชี้แจงใดๆ เมื่อคณะกรรมการมูลนิธิฯ เห็นดังนั้นจึงมีมติให้ย้ายสาวกู้ภัยคนดังกล่าว ไปศึกษาดูงานบริจาคโลงศพที่สุสานมูลนิธิฯ ต.หัวทะเล อ.เมืองนครราชสีมา เป็นระยะเวลา 15 วัน นับจากวันนี้ ซึ่งที่นั่นจะบริหารจัดการดีเยี่ยม โดยที่ไม่เคยต่อว่าด้วยคำหยาบคายใดๆ และไม่ได้ตัดเงินเดือนใดๆ ทั้งสิ้น

นอกจากนี้ ตนก็ไม่เคยรู้จักสาวกู้ภัยคนนี้เป็นการส่วนตัว และไม่มีอคติใดๆ เลย ส่วนเขาจะมีปัญหาเรื่องครัวหรือปัญหาส่วนตัวอะไรนั้น ตนเองไม่รู้ แต่ยืนยันว่าทางคณะกรรมการมูลนิธิฯ ไม่ได้กลั่นแกล้งใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหลังจากนี้ก็จะได้นำคณะกรรมการมูลนิธิฯ ไปเยี่ยมอาการสาวกู้ภัยที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และจะเชิญสามีมาพูดคุยปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน