สาว16สู้ชีวิต ถูก นายจ้างขืนใจ เดินร้องเพลงสบายใจ พอรู้ตั้งท้อง บังคับทำแท้ง ออกเงินให้แต่กลับหักออกจากค่าจ้างที่ได้ ขู่ห้ามบอกหมอใครเป็นพ่อ ก่อนหาเรื่องไล่ออก พ่อแม่สุดแค้นพาแจ้งความ
นายจ้างขืนใจ วันที่ 7 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายน้อย (นามสมมติ) อายุ 45 ปี และ นางนก (นามสมมติ) อายุ 40 ปี สองสามีภรรยา ชาวบ้าน ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ว่า น.ส.นิด (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ลูกสาวคนโตถูกนายจ้างซึ่งเป็นร้านขายสินค้ามือสองแห่งหนึ่ง ย่านถนนเฟื่องนคร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ข่มขืนจนตั้งท้องก่อนจะบังคับให้ไปทำแท้ง และหาเรื่องไล่ออกจากงาน เหตุเกิดเมื่อปลายเดือน ธ.ค.62 หลังลูกสาวกลับมาอยู่บ้าน และมีอาการเศร้าซึมเศร้ามาโดยตลอด แม่เห็นผิดสังเกตจึงคาดคั้นจนทราบเรื่อง ก่อนพาไปแจ้งความ
น.ส.นิด เปิดเผยว่า หลังเรียนจบชั้น ม.3 ก็มาเรียนต่อชั้น ปวช.1 สาขาคอมพิวเตอร์บริหารธุรกิจ ที่สถาบันเอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมือง แต่ด้วยฐานะทางบ้านยากจน ตนจึงเลือกเรียนภาคสมทบเสาร์-อาทิตย์ เพื่อเอาเวลาที่เหลือไปทำงานหาเงินเรียน แบ่งเบาภาระทางพ่อแม่ กระทั่งวันหนึ่งได้อ่านพบเฟซบุ๊กของ นายทิด (นามสมมติ) อายุ 42 ปี พื้นเพเป็นชาว จ.สุพรรณบุรี มาเปิดร้านขายรองเท้ามือสองที่ถนนเฟื่องนคร ลงประกาศว่าต้องการรับสมัครพนักงานขาย โดยให้ค่าแรง 300 บาทต่อวัน ตนจึงไปสมัครและเริ่มงานทันที
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
น.ส.นิด กล่าวต่อว่า ระหว่างทำงานได้พักอาศัยอยู่บ้านเช่าหลังหนึ่งในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม บ้านเช่าหลังนี้มี 2 ห้องนอน ห้องนอนแรกเป็นของ นายทิด ส่วนภรรยา นายทิด ตนทราบว่าทำงานเป็นพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด นานๆ จะเดินทางมาสักครั้ง โดยตนจะต้องนอนอีกห้องร่วมกับเพื่อนร่วมงานหญิงที่ทำงานในร้านเดียวกัน ต่อมาเพื่อนที่ทำงานด้วยลาออก จึงเหลือแค่ตนอยู่ในห้องตามลำพัง
น.ส.นิด กล่าวต่ออีกว่า เมื่อเดือน ก.ค.62 หลังปิดร้านเวลา 21.00 น. ก็กลับมาห้องพัก นายทิด ได้ออกอุบายให้ตนเข้าไปหาที่ห้อง อ้างว่ามีพนักงานยักยอกเงินขายสินค้าหายไปบ่อย ขอให้ช่วยจับตาดูด้วย จากนั้นนายทิด ก็เดินไปล็อกประตูบ้านและเอนกายมานอนหนุนตักตน เมื่อเห็นท่าไม่ดีตนจึงขยับลุกหนีจากโซฟาในห้อง เพื่อเปิดประตูเข้าไปนอนในห้องพักตามปกติ รุ่งเช้า นายทิด ตีหน้าซื่อมาขอโทษ อ้างแค่ลองใจดูว่าจะดื้อเหมือนคนอื่นหรือไม่
“เวลาผ่านไปราว 10 วัน นายทิด ก็เรียกได้เรียกหมูให้ไปพบในห้องอีกรอบ คราวนี้ นายทิด ได้อ้างเรื่องการทำงานที่ขาดมาตรฐานของพนักงาน แต่หนูยังไม่ทันที่จะคุย นายทิด ได้ฉวยโอกาสใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง พร้อมกับข่มขู่ว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟัง มิเช่นนั้นชีวิตของคนในครอบครัวอาจจะไม่ปลอดภัย จากนั้นนายทิด ก็เดินร้องเพลงอย่างสบายใจ และออกไปเที่ยวเตร่ข้างนอก ก่อนจะกลับเข้ามาบ้านพักอีกครั้งตอนช่วงเช้าตรู่” น.ส.นิด กล่าว
น.ส.นิด กล่าวอีกว่า นับแต่นั้นตนกลายเป็นคนบำบัดความใคร่ของ นายทิด เรื่อยมา หากมีโอกาส นายทิด จะข่มขืนและข่มขู่ทุกครั้ง ผ่านมา 2 เดือนกระทั่งในเดือน ก.ย.62 ตนพบว่ามีอาการแปลกๆ เช่นกินข้าวไม่ค่อยจะได้ มีอาการวิงเวียนศีรษะบ่อยครั้ง ด้วยความสงสัยจึงไปซื้ออุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจ หลังตรวจพบว่ามีขีดสีแดงแสดงว่าตั้งท้อง จึงไปบอก นายทิด ว่าตนท้อง นายทิด จึงสั่งให้ตนรีบไปทำแท้งทันที ต่อมาจึงไปพบแพทย์ที่ ร.พ.นครพนม เพื่อขอให้ทำแท้ง แต่แพทย์ระบุว่าไม่สามารถดำเนินการตามคำขอได้ ได้แต่แนะนำให้ไปที่ศูนย์อนามัยที่ 6 คลินิกเวชกรรม จ.ขอนแก่น
หลังจากแพทย์ตรวจสอบประวัติ นายทิด ได้โทรศัพท์มากำชับว่าห้ามบอกชื่อเป็นพ่อเด็กในท้องเด็ดขาดว่าเป็นใคร ตนจึงโกหกแพทย์ไปว่ามีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนชายที่เรียนด้วยกัน ต่อมาแพทย์ได้นัดทำแท้งเดือน ต.ค.62 นายทิด ได้โอนเงินมาให้เป็นค่าใช้จ่ายทำแท้ง 5,000 บาท ตนจึงนั่งรถโดยสารสายนครพนม-ขอนแก่น ไปเพียงลำพัง หลังทำแท้งเสร็จก็นั่งรถโดยสารกลับมาในวันเดียวกัน รุ่งเช้าก็ไปทำงานตามปกติโดยไม่ได้พักผ่อน นายทิด พบตนก็ไม่ได้ไถ่ถามอะไร
“พอสิ้นเดือนหนูไปขอรับเงินค่าแรงวันละ 300 บาทเป็นเงิน 9,000 บาท แต่ นายทิด ได้ลงบัญชีในสมุดรายจ่ายว่าเงินที่ใช้ในการทำแท้งว่าหนูเบิกไปใช้ส่วนตัว 5,000 บาท จากนั้น นายทิด ก็เริ่มออกอาการเอะอะโวยวาย หาเรื่องให้ร้ายหนูทุกวัน จนสั่งให้หนูออกจากงานเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.62 หนูจึงกลับมาอยู่บ้าน กระทั่งแม่เกิดความสงสัยและเค้นถามจนหนูบอกความจริง ก่อนจะพากันไปแจ้งความกับ พ.ต.ท.อภิชาต สุนีย์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม เมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายจ้างหื่นรายนี้ให้ถึงที่สุด” น.ส.นิด กล่าว
และในวันนี้ พ.ต.ท.อภิชาต ได้นัดให้ตนพร้อมพ่อกับแม่ มาสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ หลังจาก นายทิด ทราบว่าตนนำผู้ปกครองเข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้พยายามวิ่งเต้นเพื่อขอเคลียร์คดี โดย นายทิด ยังโทรศัพท์มาคุยโวโอ้อวดว่าเสียเงินแค่ 2-3 แสนบาทเรื่องก็จบแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม หลังได้รับรายงาน จึงได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยกล่าวว่า คดีแบบนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องสอบสวนให้แน่ชัด และให้รายงานความคืบหน้าให้ตนทราบเป็นระยะ หากมีนอกมีในจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที
