เมียเสี่ยชาติ เหยื่อรอง ผกก. สุดช็อก ข้ามคืนปืนโผล่ในรถ? งง ตร.ที่ไปด้วยบอกไม่เห็นตอนยิง

เมียเสี่ยชาติ จากกรณี พ.ต.ท. สุรเดช อัฐเสนา รองผกก.สส.สภ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด ก่อเหตุยิง “นายอภิชาติ พาโคกทม” เสี่ยเจ้าของโรงสีข้าวเสียชีวิตคารถ ขณะที่แม่และเมียนายอภิชาติ นั่งอยู่ในรถคันดังกล่าวด้วย โดยทั้งคู่มีข้อพิพาทกันเรื่องบ่อปลา ซึ่งผู้ก่อเหตุอ้างนายอภิชาติทำท่าจะหยิบปืนมายิง ทำให้ยิงสวน เจตนาป้องกันตัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว เหลืออด! พ.ต.ท.ยิงเสี่ยดับ ลูกซองซัลโวใส่รถ หลังผิดใจเรื่องปลา เมีย-แม่ช็อก นั่งอยู่ในนั้นด้วย

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 7 ม.ค. ญาติได้นำศพของ นายอภิชาติ มาถึงที่ร้านสนธยาพืชผล เลขที่ 309 ถนนเลี่ยงเมืองร้อยเอ็ด บ้านเหล่าสมบูรณ์ หมู่ 7 ต.ดงลาน อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด เพื่อประกอบพิธีรดน้ำศพ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของ น.ส.อรุณวรรณ อรรคนิมาตย์ ภรรยา แม่ และญาติๆ

น.ส.อรุณวรรณ เปิดเผยว่า ถึงกรณีตำรวจพบปืนอยู่ในรถสามีในวันที่เกิดเหตุว่า ยืนยันไม่มี 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าถ้ามีตอนที่ตำรวจเขาตรวจภายในรถ ก็ตรวจอย่างละเอียดมาก ตรวจทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วปืนที่เห็นล่าสุดที่บอกว่าพบมันก็ใหญ่มาก เขาจะมาอ้างไม่เห็นไม่ได้ คือเอารถไปจอดไว้ที่สถานีตำรวจ 1 วัน แล้วก็มาอ้างว่าเห็นปืนหลังจากนั้น 1 วัน แล้วใครจะรู้ว่าหลังจาก 1 วัน มีใครทำอะไรบ้างก็ไม่มีใครรู้ มีคนมาบอกว่าใครใส่ ตนก็ไม่รู้ ยืนยันว่าไม่มี 100 เปอร์เซ็นต์ และตนมีหลักฐานว่าตำรวจยืนยันว่าไม่มีละการค้นครั้งที่ 2 ก็ควรเอาญาติไปดูด้วย ก่อนที่จะค้น ค้นลอยๆ แล้วก็บอกว่ามีปืนอย่างนี้มันไม่ยุติธรรมกับเราเลย

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

จากการที่ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวเมื่อวานนี้มีความรู้สึกอย่างไรบ้าง น.ส.อรุณวรรณ กล่าวว่า มันเป็นดุลพินิจของศาล ตนเข้าใจ แต่ความรู้สึกส่วนตัวแค่กลัว เพราะขนาดเขาเห็นต่อหน้าต่อตาวว่ามีผู้หญิง 2 คนอยู่บนรถเขายังทำได้ขนาดนั้น และลูกเขาเองก็ไม่ธรรมดา ตนก็กลัวว่าเขาจะมาทำร้ายตน เพราะตนก็เหมือนเป้านิ่งตอนนี้ไปไหนก็ไม่กล้าไปต้องอยู่แต่บ้าน

กรณียิงสามีเสียชีวิตอยากให้ศาลตัดสินอย่างไร น.ส.อรุณวรรณ กล่าวว่า เขาได้ไตร่ตรองและเตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว จากที่ตนเห็นกับตาและอยู่ในเหตุการณ์ ตนว่าการที่คนคิดไตร่ตรองที่จะฆ่าคนอื่นและก็ร่วมกันกับใครก็ตามที่เตรียมการไว้ เริ่มตั้งแต่การจอดรถ การเตรียมปืน ใส่เสื้อเกราะใส่แว่นตาใส่หมวกหรืออะไรก็ตาม เขาเป็นคนที่จิตใจไม่ธรรมดา ตนว่าการได้รับโทษก็ต้องถึงที่สุดคือต้องประหารชีวิตอย่างเดียว เพราะว่าเขามีสติสัมปชัญญะครบถ้วน เขาไม่ใช่คนบ้าที่ทำอะไรขาดสติโดยไม่ได้ไตร่ตรอง ตนเชื่อว่าเขาไตร่ตรองไว้ ตนว่าโทษเขาต้องได้รับถึงที่สุดจากที่เขาไตร่ตรองมา

น.ส.อรุณวรรณ ตอบข้อซักถามที่ว่าตนกับลูกน้องถืออาวุธจะลงไปทำร้ายมือปืนใช่หรือไม่ ว่า ไม่จริง เพราะตอนนั้นตนได้อัดวีดีโอไว้ แต่ไม่เห็นหน้าเขาชัดเจนแต่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ตนยังยืนยันเหมือนเดิมว่า เฮียชาติลงไปรับตนพอแม่ขึ้นรถ ตนกับเขากำลังจะขึ้นรถพ่อเขารอง ผกก.ที่ยิงเฮียชาติ ก็เดินไปชักปืนสั้นอยู่หลังรถ หลังจากนั้นตนก็จับมือถือมาถ่ายแต่ไม่เห็นหน้าเห็นตา ลักษณะคำพูดของเขาคือป้องกันตัวๆ ทั้งๆ คนของเราพูดคำหนึ่งมาว่าปัญหาไม่มีอะไรเลยมันมีแต่เรื่องปลา คำพูดของเขาอยู่ในคริปวีดีโอด้วย ตนก็เลยพูดว่า “พี่เป็นถึงรองผู้กำกับนะ พี่ทำอย่างนี้ได้ยังไง” คือเฮียชาติไม่มีปืนเลย ไม่มีจริงๆ ถ้ามีวันนั้นมันคงไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ เราไม่ได้สู้ไม่มีอะไรเลย จะใช้คำพูดว่าป้องกันตัวมันไม่ใช่ ป้องกันตัวคือเราสู้กับคุณ และในคริปวีดีโอคุณก็บอกว่า ก็มันเปิดประตูรถกำลังจะลงมาก็ยิงมันเลยสิ นั่นแหละวีดีโอนั้นก็สำคัญนะ แสดงว่าคุณเตรียมการไว้แล้วคุณรอเพื่อจะยิงแล้ว








Advertisement

ส่วนกรณีเรียกตำรวจจาก 191 มาดูแลสถานการณ์แต่ยังเกิดเหตุได้นั้น น.ส.อรุณวรรณ เปิดเผยว่า มันคือความเสียความรู้สึกมากกว่า เพราะว่าเราโทรแจ้งเขาบอกทุกอย่าง คำว่าเขาคือตำรวจ 2 นาย บอกว่ามีอาวุธปืนแบบไหนบ้าง สั้นกี่กระบอก ยาวกี่กระบอก พอเขามาถึงบ้านเราก็บอกเขานำหน้าเขาก็ไม่นำและเฮียชาติเลยตัดสินใจนำหน้า และในระหว่างที่ลงไปนั้นก็เกิดเหตุการณ์ที่เฮียชาติโดนยิง คือเริ่มแรกเขาขับรถไปคุยกันคุณน่าจะเดินเข้าไปนะ เปิดประตูรถลงไปคุยสักนิดหนึ่งเพราะเราไปแจ้งเหตุให้คุณมาดูแลเรา มาดูแลประชาชนคุณก็ไม่ทำ ได้ยินปืนนัดแรกแล้วเราร้องขอชีวิต เราทั้งกรีด แม่ร้องขอชีวิต คุณยังปล่อยให้มีนัดที่ 2 อีก

แล้วที่สำคัญไปกว่านั้นคุณยังบอกว่าคุณไม่เห็น คุณพูดได้ไงว่าคุณไม่เห็น ปืนดังขนาดนั้น คนที่อยู่ในละแวกนั้นที่อยู่ไกลกว่าคุณเขายังได้ยิน แต่คุณอยู่เพียง 5 เมตรคุณไม่เห็นและไม่ได้ยินคุณไม่รู้ คือคุณไม่สมควรจะเป็นตำรวจและไม่สมควรที่จะรับใช้ประชาชนเลย เพราะว่าเราฝากความหวังไว้กับคุณในวันที่เราโทรแจ้งให้คุณมา เราฝากว่าเราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นก็เลยโทรแจ้งคุณทุกอย่าง และคุณก็ยืนยันต่อหน้าศพเฮียชาติว่า “ผมไม่เห็น” คือได้ยินกับหูตอนนั้นมันรู้สึกสลดใจว่าทำไมตำรวจจึงเป็นแบบนี้ มันเสียความรู้สึกและไม่ไว้วางใจตำรวจอีกเลย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม

คือตำรวจทั้งสองคนที่มากับเราและที่ยิงสามีเราทำให้หมดศรัทธาในตำรวจเลย ว่าไม่สามารถดูแลประชาชนได้ และยังละเลยการปฏิบัติหน้าที่ เลือกที่จะปฏิบัติหน้าที่เพราะว่าเขารู้ไง เราแจ้งให้เขาทราบแล้วว่าเขาคือรองผู้กำกับนะ มีปืนนะ เขาก็เลยละเลย แม้แต่ตอนที่เขาวางปืนแล้วตำรวจที่เพิ่งเดินลงไปจากรถยังบอกว่า “เจ้านายปืนอยู่ไหน” คำว่าเจ้านายไม่ควรใช้แล้วตั้งแต่ยิงคนตาย คุณไม่เดินไปดูดำดูแดงคนตายเลย แต่คุณก็ห่วงแต่เจ้านายของคุณมันก็เลยเป็นอย่างนี้ หลังจากนี้ก็จะไปแจ้งความว่าเขาละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าเขาอยากจะปกป้องแต่นายของเขา และก็เอาแต่ประโยชน์ของเขาเป็นหลัก เขาไม่ควรที่จะเป็นตำรวจต่อไปแล้ว อ่านข่าว เมียเสี่ยโรงสีเล่าเสียงสั่น นาที ‘พ.ต.ท.’ ยิงผัวดับ แม่ร้องขอชีวิตไม่ฟัง-แถมยิงซ้ำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน