วันที่ 21 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา กล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านขายยาแห่งหนึ่ง ข้างโรงพยาบาลตราด สามารถจับภาพวัยรุ่น 2 คน สวมหมวกแก๊บทั้งคู่ มี 1 คน สวมกางเกงขาสั้น ส่วนอีก 1 คน สวมกางเกงขายาว เดินตามประกบหนุ่มคนหนึ่ง ก่อนล็อกคอแล้วลากมาที่หน้าร้านขายยาดังกล่าว แล้วลงมือชกต่ายเข้าที่ใบหน้าจนล้มลงกับพื้น จากนั้นทั้ง 2 คน ยังใช้เท้าเตะเข้าที่ใบหน้าและศีรษะหลายครั้งจนนอนแน่นิ่งกับพื้น แล้วพากันวิ่งหลบหนีไป

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือนายพงษ์รัตน์ ปิ่นทอง หรือบูม อายุ 31 ปี เป็นผู้ป่วยจิตเวช โดยขณะเกิดเหตุเจ้าของร้านขายยาที่เกิดเหตุได้ยินเสียงดัง จึงเปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบว่าเกิดเหตุดังกล่าว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ แต่ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน ก็หลบหนีไปแล้ว ซึ่งหลังเกิดเหตุญาติได้เข้าแจ้งความกับตำรวจไว้แล้ว

ขณะที่อาการของนายพงษ์รัตน์ ล่าสุดพบว่ายังน่าเป็นห่วง มีเลือดคลั่งในสมอง ศีรษะบวม ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา โดยแพทย์ยังคงติดตามอาการอย่างใกล้ชิด สำหรับนายพงษ์รัตน์ เป็นชายสติไม่สมประกอบ มักจะเดินไปตามถนนและนั่งอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อเป็นประจำ เป็นที่รู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตาของคนตราด ไม่มีภัยอันตรายกับใคร แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ทำให้หลายคนเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก และวอนให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้านร.ต.อ.นิสสัน พัวพันศรี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองตราด เจ้าของคดี เปิดเผยว่า จาการติดตามคดีและตรวจสอบกล้องวงจรจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งในสามแยกรพ.ตราด หน้าร.ร.สตรีประเสริฐศิลป์ และหน้าปั๊มน้ำมันปตท.เมืองตราด พบร่องรอยหลายจุดตั้งแต่การนำผู้เสียหายมาจากบริเวณปั๊มน้ำมันมายังที่เกิดเหตุ แล้วทำร้ายร่างกายหลายครั้งโดยเฉพาะบริเวณศีรษะหลายครั้งจนแน่นิ่งไป ซึ่งภาพในที่เกิดเหตุพบว่า วันรุ่นที่ถูกทำร้ายนั้นไม่มีการต่อสู้แต่ประการใด ซึ่งสาเหตุจากการประเมินตามสถานการณ์แล้วน่าจะเป็นเรื่องของการหมั่นใส้มากกว่าเรื่องอื่น หรือน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวเป็นหลัก

ร.ต.อ.นิสสัน กล่าวว่า ส่วนเรื่องการติดตามตัวตัวคนร้ายนั้น ทางผกก.เมืองตราด ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนสภ.เมืองตราด ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและไล่ตามจุดสำคัญต่างตามเส้นทางที่คิดว่าคนร้ายได้เดินผ่านกล้อง ซึ่งพบว่ามีหลายจุดที่เห็นภาพหน้าของผู้ทำร้ายได้ชัดเจน ซึ่งสายสืบกำลังจะติดตามหาตัว 2 วัยรุ่นนี้แล้ว

ทางด้านนายสุชาติ เทพนวล ผู้จัดการร้านเซเว่นอีเลฟเว่น กล่าวว่า นายพงษ์รัตน์ เป็นคนที่มีอาการป่วยทางจิตเวช ทุกคืนจะมานั่งที่ม้านั่งที่หน้าร้าน และจะถือถุงกระดาษไว้ถุงหนึ่ง ดึกเข้าก็จะหลับและนอนที่นี่ แต่ส่วนใหญ่จะนั่งเฉยๆ ไม่พูดไม่จากับใคร ซึ่งทางร้านจึงนำม้านั่งออกเพื่อไม่ให้มีการมั่วสุมและนอนหน้าร้าน ซึ่งหลังจากนั้นนายพงษ์รัตน์ ก็หันไปนั่งที่ป้ายรถโดยสารหน้าร้านเป็นประจำ หรือไม่ก็มานั่งในปั๊มน้ำมัน และมาซื้อบะหมี่สำเร็จรูปกินเป็นประจำ พนักงานในร้านจะรู้จัก แต่ในวันที่เกิดเหตุนั้นไม่ได้นั่งอยู่ในร้านแต่นั่งที่พักผู้โดยสาร ซึ่งไม่ทราบว่าเกิดเหตุทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น

ส่วนนางสุดใจ ชื่นจำปา อายุ 50 ปี แม่ของนายพงษ์รัตน์ ซึ่งมาเฝ้าดูอาการลูกชาย กล่าวว่า ลูกชายเป็นคนที่จิตไม่ปกติ และต้องทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่ทางบ้านได้หยุดการรักษามาระยะหนึ่ง จึงทำให้ลูกชายออกมานอกบ้าน ซึ่งพฤติกรรมไม่ได้มีปัญหากับใคร เพราะเป็นคนที่ไม่พูดจากับใคร ซึ่งการถูกทำร้ายร่างกายครั้งนี้ เพราะลูกชายออกมาเที่ยวงานเทศกาลผลไม้ และไม่รู้ว่ามีเรื่องกับใครหรือไม่ แต่ผู้ทำร้ายก็ทำรุนแรงเกินไป ทำให้ลูกชายได้รับบาดเจ็บสาหัส สมองมีเลือดคลั่งซึ่งแพทย์จะนำไปเอกซ์เรย์สมอง หากต้องผ่าตัดจะต้องส่งตัวไปที่รพ.พระปกเกล้าจ.จันทุบรี และเมื่อสายของวันนี้ได้เข้าไปแจ้งความกับตำรวจเมืองตราดและขอให้จับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีซึ่งจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน