แห่แจ้งจับนายหน้า อ้างซี้คนใหญ่คนโต ตุ๋นเหยื่อวิ่งเต้นได้เงินคืนคดี แชร์ลูกปัด เผยใช้ภาพคู่ผู้ใหญ่มาให้ดูจนเชื่อถือ ก่อนโอนเงินค่าดำเนินการให้ สุดท้ายบ่ายเบี่ยง

แชร์ลูกปัด / เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 ก.พ. ที่สน.ทุ่งสองห้อง มีกลุ่มผู้เสียประมาณ 20 คน เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.พงศธร วชิรโชติกุล รอง สว.(สอบสวน) ว่าถูกโกงเงินจากนายหน้าที่อ้างว่า รู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่สามารถเร่งรัดติดตามคดีให้ได้รับความสะดวก และได้เงินคืนจากการถูกโกงเงินแชร์ลูกปัดได้ แต่ต้องจ่ายค่าดำเนินการก่อนเป็นจำนวนเงิน 10 % ของเงินที่ถูกโกงไป

นายบัณฑิต ภูศรี อายุ 42 ปี ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือน ต.ค.2562 กลุ่มคนที่เล่นแชร์ลูกปัดไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับร้านที่ตั้งแชร์ลูกปัด เนื่องจากถูกโกงเงินค่าลูกปัด

จากนั้นมีกลุ่มคนที่ใช้ชื่อ เพจแฟนเพจเตือนภัยวิชาชีพ, กลโกงและแชร์ประสบการณ์มิจฉาชีพ เข้ามาอ้างว่ามีเส้นสายสามารถทำคดี และได้เงินคืนภายในเวลา 1 เดือน แต่ของค่าแรง 10% ของยอดเงินที่โดนโกงไป ซึ่งรวมๆ กันแล้วมีมูลค่านับล้านบาท จากกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมด โดยผู้เสียหายต้องจ่ายเงินก่อน พอหลังจากโอนเงินให้แล้วประมาณ 4 เดือน คดีไม่มีความคืบหน้าเหมือนตอนที่ตกลงกันไว้ในตอนแรก ดูจากการกระทำเหมือนมาหลอกเงินจากผู้เสียหาย ทางผู้เสียหายเลยรวมตัวกันเข้าแจ้งความดำเนินคคดี

โดยหนึ่งในผู้เสียหายอีกราย ระบุว่าหลังจากพวกตนเข้าแจ้งความถูกโกงแชร์ลูกปัดในแต่ละพื้นที่ ชายคนดังกล่าวติดต่อเข้ามาผ่านทางเฟซบุ๊กอ้างว่า สามารถช่วยติดตามเงินกลับมาได้ เพราะตัวเองเป็นคนสนิทของผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ที่อยู่ในหน่วยงานหนึ่ง หลังจากนั้นก็เจอตัวกันที่หน่วยงานดังกล่าว

ขณะพวกตนรวมตัวไปร้องทุกข์ โดยชายคนนี้นำภาพถ่ายคู่กับผู้ใหญ่ในหน่วยงานมาให้ดู ทำให้น่าเชื่อถือ พวกตนจึงตัดสินใจโอนเงินค่าดำเนินการให้ แต่เรื่องผ่านไป 4 เดือนกลับไม่คืบหน้า เมื่อพยายามสอบถามได้รับการบ่ายเบี่ยง อ้างว่าอยู่ระหว่างการสืบสวนคดี ข้อมูลเป็นความลับ ไม่สามารถเปิดเผยว่า วันนี้จึงรวมตัวเข้าแจ้งความให้ตำรวจตรวจสอบ

ขณะที่อีกหนึ่งผู้เสียหายระบุว่า ในคดีโกงแชร์ลูกปัด ตัวเองเสียเงินไปแล้วกว่า 1 แสนบาท ก่อนที่จะจ่ายค่าดำเนินการให้กับชายคนดังกล่าว 1 หมื่นบาท และต่อมาผู้ต้องหาที่โกงแชร์ลูกปัดพยายามไกล่เกลี่ย พร้อมจ่ายเงินคืนมาแล้ว 6 หมื่นบาท แต่ชายคนดังกล่าวอ้างให้นำเงิน 6 หมื่นบาทนี้เข้ากองกลาง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองตกเป็นผู้ต้องหา ถูกดำเนินคดีไปด้วย

พร้อมทั้งยังขอค่าดำเนินการอีก 2 หมื่นบาท นอกจากไม่ได้รับเงินคืน ตัวเองยังต้องเสียเงินเพิ่มรวมค่าดำเนินการทั้งหมดอีก 3 หมื่นบาท ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ เพราะเหมือนถูกหลอกซ้ำซ้อน คิดว่ามีคนยื่นมือมาช่วย แต่กลับมาหลอกซ้ำ

ซึ่งพนักงานสอบสวนรับเรื่องไว้ พร้อมรวบรวมหลักฐาน อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนดำเนินการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน