วันที่ 30 พ.ค. นายไพรัตน์ ทุบชุม นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมฝ่ายช่างเทศบาลตำบลทางพูน กำลังทหารจาก มทบ.41 กองทัพภาคที่ 4 รวมทั้งพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 649/1 หมู่ 3 ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช หลังด.ญ.ปิยะพร เหลี่ยมไตร อายุ 13 ปี เขียนจดหมายแล้วถ่ายภาพโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ระบุถึงความลำบากของครอบครัว โดยเฉพาะภาพตัวบ้านอยู่ในสภาพพังทรุดโทรมอย่างหนัก รวมทั้งการเดินทางไปโรงเรียนอย่างยากลำบาก ก่อนจะมีการแชร์กันอย่างกว้างขวาง
ที่บ้านหลังดังกล่าวพบนายสุนทร เหลี่ยมไตร อายุ 45 ปี พ่อของเด็กมาต้อนรับ ส่วนลูกๆ ทั้ง 3 คน ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนกันหมด ขณะที่ภรรยาก็ไปพบแพทย์ตามหมอนัดเนื่องจากป่วย ส่วนสภาพบ้านเรือนของนายสุนทร นั้นเป็นบ้านไม้ยกสูงอยู่กลางน้ำที่ยังมีร่องรอยน้ำท่วมอยู่ มีโคลนล้อมรอบ ห่างจากถนนทางเข้ากว่า 30 เมตร และต้องทำสะพานไม้เดินเข้าไปในตัวบ้านที่ทรุดโทรม บนตัวบ้านมีห้องครัว 1 ห้อง ห้องนอน 1 ห้อง
เบื้องต้นทราบว่า รายได้หลักของครอบครัวนี้มาจากนายสุนทร ซึ่งหาปลาและปลูกผักขาย รายได้ก็ไม่พอกับค่าใช้จ่าย ส่วนบ้านก็ทรุดโทรมอย่างหนัก และจะถูกนำท่วมตลอด ซึ่งเวลาเด็กไปโรงเรียนก็ต้องใช้เรือข้ามไป แล้วไปต่อรถอีกทอดหนึ่ง นอกจากนี้หากฝนตกแรงๆ ก็ทำให้หลังคาพังลงมา ส่งผลให้ครอบครัวนี้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ด้านนายสุนทร กล่าวว่า ขอบคุณทั้งผู้ว่า นายอำเภอ เทศบาล ทหาร และส่วนอื่นๆ ที่มีความกรุณามาช่วยเหลือครอบครัว ที่ผ่านมาบ้านเสียหายในช่วงน้ำท่วมหนักตั้งแต่ปลายปี 2559 จนถึงต้นปี 2560 ซึ่งตัวบ้านผุหมดแล้ว ที่ต้องการความช่วยเหลือเรื่องที่อยู่อาศัยอย่างเดียว นอกจากนั้นไม่มีอะไรแล้ว ส่วนการก่อสร้างมีญาติพี่น้องจะมาช่วยเหลือ สำหรับคนที่จะบริจาคสิ่งของหรืออะไรก็แล้วแต่ ตอนนี้ตนไม่มีบัญชีธนาคาร แต่สามารถโทรมาประสานตนได้ที่หมายเลข 088-4420453
สำหรับการช่วยเหลือครอบครัวของ ด.ญ.ปิยะพร ในเบื้องต้นมีรถรับส่งไปโรงเรียนฟรี ขณะที่เทศบาลตำบลทางพูนนั้นบริจาคกระเบื้องในการสร้างบ้านให้ทั้งหลัง ทางอำเภอเฉลิมพระเกียรติและผู้ใหญ่บ้านจะร่วมกันบริจาควัสดุก่อสร้างอื่นๆ ในขณะที่ มทบ.41 จะสร้างสะพานเข้าออกให้สะดวกยิ่งขึ้น
นายไพรัตน์ ทับชุม นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติกล่าวว่า มาเห็นสภาพบ้านของนายสุนทร ก็เห็นใจเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ร่วมกับเทศบาลตำบลทางพูนและผู้ใหญ่บ้านเตรียมการให้การช่วยเหลือ โดยบ้านทั้งหลังนี้อยู่ในที่ลุ่มจึงจำเป็นต้องยกให้สูงกว่าเดิม และ มทบ.41 จะก่อสร้างสะพานทางเข้าบ้านกว้าง 2 เมตร ยาว 10 เมตร สร้างห้องน้ำเพื่อให้เด็กๆ สะดวกขึ้น นอกจากนั้นเรื่องยานพาหนะนั้นทราบว่าทางโรงเรียนของเด็กจะจัดการให้
