อุบลฯ เจออีก 1 เมียเซียนมวย ติด โควิด หลังไปเชียร์มวยที่สนามกับผัว ส่วนฝ่ายผัวยังต้องลุ้นจากห้องแล็บอีกครั้ง พร้อมยกระดับการเฝ้าระวัง
โควิด วันที่ 19 มี.ค. ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย นพ.สุวิทย์ โรจนศักดิ์โสธร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยพบผู้ติดเชื้อแล้ว 1 ราย เป็นภรรยาของเซียนมวยที่เข้าชมการชกมวยที่สนามมวยลุมพินีในวันที่ 7 มี.ค.ด้วยกัน และเดินทางกลับด้วยสายการบินมาที่ จ.อุบลราชธานี ในวันรุ่งขึ้น วันต่อมาได้เข้ามาเที่ยวในตัวจังหวัด กระทั่งวันที่ 10 มี.ค. มีอาการป่วยและเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลในวันรุ่งขึ้น
แต่เนื่องจากขณะนั้น ยังไม่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง เพราะไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ หรือสัมผัสกลุ่มเสี่ยงตามขอบเขตเดิม กระทั่งวันที่ 12 มี.ค. ทราบจากคนในวงการเพื่อนเซียนมวยด้วยกันติดเชื้อโควิด-19 เจ้าหน้าที่ได้นำเยื่อบุทางเดินหายใจ SWAB ไปตรวจ ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 10 อุบลราชธานี ทราบผลเป็น บวก คือมีเชื้อ
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ตามหลักการต้องส่งตัวอย่างในหลอดเดียวกัน ส่งไปตรวจยืนยันที่สถาบันโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ปรากฎว่า ผลในเวลาต่อมาเป็น ลบ คือไม่พบเชื้อ แต่เจ้าหน้าที่ได้ทำการกักตัวเซียนมวยและภรรยาไว้ในโรงพยาบาล เพื่อรอผลการตรวจซ้ำ กระทั่งวันที่ 16 มี.ค. นำเยื่อบุทางเดินหายใจ SWAB ไปตรวจใหม่ ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 10 ทราบผลเป็นอีกบวก จึงต้องส่งตัวอย่างในหลอดเดียวกันไปตรวจยืนยันที่สถาบันโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์อีก
และพบผู้เป็นภรรยาที่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดได้รับเชื้อโควิด-19 โดยเป็นผู้ป่วยที่ยังไม่มีอาการ แต่รับเชื้อโควิด-19 แน่นอน ส่วนเซียนมวยที่เป็นสามี ยังเป็นเพียงผู้ป่วยเข้าข่ายอีก 1 ราย โดยขณะนี้ รอการยืนยันผลการตรวจที่ชัดเจนจากห้องปฏิบัติการ
ซึ่งในเหตุการณ์นี้ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 89 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามและเก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้ว 47 คน ผลตรวจไม่พบเชื้อ 42 คน รอผลตรวจจำนวน 5 คน จึงได้แนะนำให้หยุดงานเพื่อกักสังเกตอาการ 14 วัน ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ 650 คน แนะนำให้สังเกตอาการตนเอง 14 วัน
ด้านการเฝ้าระวังโรคตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นมา จ.อุบลราชธานี มีผู้เดินทางกลับจากประเทศที่เป็นพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง จำนวน 494 คน โดยให้กักเพื่อสังเกตอาการตนเองที่บ้านทั้ง 494 คน มีผู้ที่พ้นระยะสังเกตอาการ 14 วัน ซึ่งมีอาการปกติและกลับไปทำงานได้แล้ว 297 คน และยังอยู่ในระหว่างสังเกตอาการที่บ้าน 197 คน
โดยนายอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ ได้ดำเนินการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น พร้อมทั้งแนะนำให้ผู้ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยเข้าข่ายและผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ เคยเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หรือพื้นที่ที่มีการระบาด แยกกักตัวที่บ้าน เป็นเวลา 14 วันและวัดอุณหภูมิร่างกายทุกวัน หากพบว่ามีไข้ร่วมกับอาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อยให้รีบพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที
สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับบุคคลอื่น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และอยู่ห่างจากคนอื่นไม่น้อยกว่า 1-2 เมตร ใช้เวลาพบปะผู้อื่นให้สั้นที่สุด หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ให้บ่อยขึ้น หากรู้สึกไม่สบาย ไอ จาม ให้สวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในที่ที่มีการระบาดและพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น และหลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้า เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นี้
