โควิดระบาด ไม่สน เปิดรีสอร์ตปาร์ตี้ พี้ยามั่วเซ็กซ์ 2คืนติด โจ๋ชายหญิงเมาแอ๋-ไม่ใส่เสื้อ
เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 27 มี.ค.ชุดปฎิบัติการพิเศษจังหวัดเชียงราย (ฉก.นรสิงห์) ฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงราย สนธิกำลังร่วมกับ สภ.บ้านดู่ นำกำลังกว่า 30 นาย เข้าตรวจค้นห้องพักรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ต.ท่าสุด อ.เมือง พบกลุ่มวัยรุ่นชาย 10 คน หญิง 12 คน อายุระหว่าง 20 – 30 ปี มั่วสุมปาร์ตี้เปิดเพลงกันอย่างสนุกสนาน ภายในห้องขนาดใหญ่ มีห้องพักริมสระว่ายน้ำ
เกาะติดข่าวโควิด กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account
ตรวจสอบพบภายในห้อง มีเครื่องเสียง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลายรายการ ทั้งเบียร์ สุรา บุหรี่ ถุงยางอนามัยหลายกล่องและยังพบยาเสพติด ประเภทยาอี และยาเค ชนิดผงและเกล็ดบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ตกอยู่ตามพื้นเกลื่อน บางส่วนซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋า ห้องพักขาดใหญ่ประกอบไปด้วยห้องนอนจำนวน 3 ห้องติดกัน
กลุ่มวัยรุ่นชายหญิงกระจายมั่วสุมอยู่ ทุกห้อง สามารถเปิดหากันได้หมด บางรายไม่สวมเสื้อผ้านอนอยู่บนเตียง ทั้งหมดอาการมึนเมา นอกจากนี้ยังพบเงินสดจำนวน 237,000 อยู่ในกระเป๋าสะพายของนายนิรันดร์ ซึ่งเป็นผู้เปิดหัองพักในโรงแรมดังกล่าว และเป็นเจ้าของงานจัดปาร์ตี้ในครั้งนี้อีกด้วย
สอบสวนทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้มาเปิดห้องพักจากโรงแรมดังกล่าวตั้งแต่คืนวันที่ 26 มีนาคม 2563 โดยมีนิรันดร์ เอมสวรรค์ อายุ 24 ปี เป็นชาวจังหวัดตราด เป็นผู้เปิดห้องพักและได้ชักชวนเพื่อนและนัดหมายกันทางไลน์กลุ่ม ว่าจ้างสาวๆ ที่รับงานเอนเตอร์เทนมาร่วมงานกัน จนกระทั่งมีการร้องเรียนไปยังจังหวัดเชียงรายว่ามีการมั่วสุมส่งเสียงดังตั้งแต่คืนที่ผ่านมาแล้ว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่จู่โจมเข้าจับกุมได้ดังกล่าว
ส่วนเงินสดของกลางที่ตรวจพบจะได้ตรวจสอบที่มาอีกครั้งว่าเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ ขณะที่การรวมกลุ่มจัดปาร์ตี้ดังกล่าว พบว่าเป็นการรวมกลุ่มโดยนัดหมายกันทางอออนไลน์ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดมาจากหลายพื้นที่บางรายมาจากต่างจังหวัด โดยจัดปาร์ตี้กันเป็นคืนที่2 แล้วซึ่งไม่เกรงกลัวต่อฏหมายและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ส่วนจะมีความผิดตามประกาศของจังหวัดเชียงรายในเรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา2019 และประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการพิจารณา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจปัสสาวะผู้ต้องหาทั้งหมด พบมีสารเสพติดหลายราย พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี,ไอซ์) และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป