เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ร.ต.อ.ภาคิน ทิน้อยสกุล พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองอุทัยธานี รับแจ้งเหตุว่า มีคนขับรถยนต์ พุ่งเข้าไปในร้านเสื้อผ้า บริเวณตลาดท่ารถ บขส.อุทัยธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยสายตรวจจราจร

ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายเสื้อผ้า ชื่อร้านกันเอง อยู่ลาดเกษตรหรือตลาดท่ารถ บขส.อุทัยธานี พบรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทาทะเบียน กค3175 อุทัยธานี พุ่งเข้าไปอยู่ในร้านขายเสื้อผ้าดังกล่าว มีร่องรอยการขับรถพุ่งชนเข้าไป โดยมีเสาประตูของร้านติดคากับหน้ารถและป้ายของร้านคาอยู่ด้านหน้ารถคันดังกล่าว

ตรวจสอบภายในร้านพบราวผ้าคาอยู่หน้ารถ ราวผ้าและเสื้อผ้าเสียหายเป็นบางส่วน เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามยังผู้ขับขี่คือ นางสุจิตร กระแสสินธุ์ อายุ 56 ปี ซึ่งอยู่ในอาการตกใจให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนขับรถผ่านร้านเสื้อผ้ามาและขับรถมาอย่างช้าๆ แต่ก่อนขับรถออกจากบ้านเพื่อมาทำธุระนั้น ได้กินยารักษาอาการไทรอยด์เข้าไป ซึ่งนางสุจิตรกินยาเพื่อรักษาอยู่ตลอด พอมาถึงร้านกันเอง ขับรถด้วยความมั่นใจว่าจะหักหลบพ้น แต่กลับไม่พ้น จึงพุ่งชนร้าน และอาจจะเป็นฤทธิ์ยาที่กินเข้าไป จึงทำให้ขับรถพุ่งชนเข้าไปในร้านขายผ้า

ด้านน.ส.เสมอ แซ่อึ้ง อายุ 53 ปี เจ้าของร้านเสื้อผ้า อยู่บ้านเลขที่ 214 หมู่ 6 ตำบลบ้านทุ่ง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เล่าว่า กำลังเปิดร้านเพื่อเตรียมจะขายเสื้อผ้าตามปรกติ และกำลังจัดร้านอยู่กับหลานต่างก็พากันตกใจ เมื่ออยู่ดีๆ มีเสียงตูมดังสนั่นในร้าน เลยรีบเข้ามาดูกลับพบว่า มีรถเก๋งพุ่งชนเข้าไปในร้านและเคราะห์ดีที่ไม่มีคนได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ครั้งนี้

ส่วนนางสุจิตรนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาขับรถประมาททำให้มีทรัพย์สินเสียหาย โดยไปเปรียบเทียบปรับที่สถานีตำรวจ และทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญทั้งสองฝ่ายไปทันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐาน เพื่อเป็นพยานว่าทั้งสองฝ่ายไม่ติดใจเอาความกัน เพราะทางร้านขายเสื้อผ้าก็ ไม่ได้ติดใจในเหตุการณ์รถพุ่งชนเข้าไปในร้านในครั้งนี้ เพราะมีแค่เสาประตูยืดและราวผ้ารวมถึงเสื้อผ้าเสียหายเป็นบางส่วนเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจและเพื่อบ้านจึงช่วยกันเข็นรถออกจากร้าน และช่วยกันเก็บเสื้อผ้าที่เสียหาย เพื่อที่จะได้แจ้งค่าเสียหายกับกับนาง นางสุจิตรผู้ขับรถซึ่งรับปากเจ้าของร้านเสื้อผ้าว่าจะรับใช้ทั้งหมด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน