ตร.ฝ่ายปกครองบุกจับกลุ่มวัยรุ่นชายหญิง 12 คน คารีสอร์ต ตั้งวงมั่วสุมดื่มเหล้าวันสงกรานต์ ตรวจฉี่ลูกชายเจ้าของรีสอร์ตพบสีม่วง
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผกก.สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ พ.ต.ท.ประพันธ์ ขำเอนก สว.สส.สภ.กระสัง พร้อมด้วยเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอกระสัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอส. นำกำลังเข้าจับกุมกลุ่มวัยรุ่น ที่รวมตัวมั่วสุมดื่มสุราภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน ต.สองชั้น อ.กระสัง เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 12 คน ได้แก่ 1.นายธีรพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ลูกชายเจ้าของรีสอร์ต และวัยรุ่นชาย-หญิงอายุระหว่าง 21-30 ปี อีก 11 คน
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีกลุ่มวัยรุ่นหลายคนรวมตัวมั่วสุมตั้งวงดื่มสุรากันช่วงวันสงกรานต์ ภายในรีสอร์ตดังกล่าวเป็นการทำผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านข้างเคียง
พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผกก.สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ประพันธ์ ขำเอนก สว.สส.สภ.กระสัง พร้อมกำลังตำรวจ ร่วมกับเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอกระสัง และ อส.ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวมั่วสุมดื่มสุราภายในรีสอร์ตดังกล่าว ตำรวจจึงควบคุมตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 12 คน เป็นชาย 10 คน หญิง 2 คน มายัง สภ.กระสัง และเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ทุกคนและตรวจปัสสาวะ
เบื้องต้นพบสารเสพติดในปัสสาวะของนายธีรพงษ์ ส่วนคนที่เหลือไม่พบสารเสพติด จากนั้นตำรวจนำปัสสาวะของนายธีรพงษ์ส่งรพ.กระสัง ซึ่งผลยืนยันว่าพบสารเสพติดในปัสสาวะ ก่อนนำตัวส่ง ร.ต.อ.นิตพัฒน์ กิตติจรัสชัย รอง สว.สอบสวน สภ.กระสัง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายธีรพงษ์ ให้การว่า เป็นลูกชายเจ้าของหอพัก แต่อ้างว่ากลุ่มวัยรุ่นทั้ง 10 คน เข้ามาเช่าพัก แต่ก็รู้จักกันเพราะเป็นคนในหมู่บ้าน ส่วนตนและเพื่อนอีกคน นั่งเล่นอยู่หน้ารีสอร์ต ไม่ได้ร่วมวงกับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวด้วย
แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุม อ้างว่าตนกับเพื่อนนั่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ จึงถูกควบคุมตัวมาดำเนินคดีด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อเพราะมีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวมั่วสุมดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในรีสอร์ตดังกล่าว
เกาะติดข่าวโควิด กดติดตามไลน์ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน จึงแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 12 คน “ร่วมกันมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหารายที่ 1 ว่า เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” ด้วย