เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักในพื้นที่ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด หลังทราบว่าเป็นบ้านที่น้องรุ้ง เด็กหญิงวัย 12 ปี ซึ่งถูก น.ส.สุภาพร แม่แท้ๆกับนายวจะรัน อายุ 35 ปีพ่อเลี้ยง ทำร้ายจนเสียชีวิตแล้วนำศพไปทิ้งน้ำในคลองสำโรง ต.ศรีษะจรเข้ใหญ่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พักอาศัยอยู่กับยายก่อนที่น.ส.สุภาพร จะมารับตัวไปอยู่ด้วยก่อนถูกทำร้ายจนเสียชีวิต

ซึ่งบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านชั้นเดียวมุงด้วยสังกะสี โดยพบนายสุบรรณ อายุ 58 ปีและนางสายสมร อายุ 50 ปีตาและยายของน้องรุ้ง นั่งอยู่หน้าบ้านด้วยอาการซึมเศร้า หลังต้องเสียหลานรักไปจากฝีมือของลูกสาวตัวเอง พร้อมเปิดเผยเรื่องราวชีวิตของลูกสาวกับหลานว่า ตนมีลูกสาว 2 คนแม่ของน้องรุ้งเป็นพี่สาวคนโตไปทำงานที่อยู่กรุงเทพฯหลายปีจนมีสามีคือพ่อน้องรุ้งก่อนละเลิกลากันไป และได้นำน้องรุ้งมาให้เลี้ยงได้ประมาณ 1 ปี และเข้าเรียนชั้นป.4 กำลังจะขึ้นป.5

“ น้องรุ้งเป็นเด็กร่าเริงตามวัย เคยมีดุบางแต่ก็ไม่เคยตีเลยเพราะรักมากจนกระทั้งช่วงเดือนเม.ย.ก่อนเทศกาลสงกรานต์แม่ของน้องรุ้งกลับมารับไปอยู่ด้วย บอกว่าจะพาไปเที่ยวช่วงปิดเทอม แต่ปรากฎว่าตั้งแต่หลานออกจากบ้านไปอยู่กับแม่ของเขาเราก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย คนที่บ้านก็เป็นห่วงแต่โทรเท่าไหร่ลูกสาวก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์แม้แต่ครั้งเดียว จึงให้ลูกสาวคนเล็กและญาติๆโทรหาแม่น้องรุ้งแต่ก็ไม่เคยรับสายใครเลย ตากับยายก็ทำได้แค่เพียงเฝ้ารอการกลับมาของหลาน ครูประจำชั้นก็มาตามที่บ้านเพราะเปิดเทอมหลายวันแล้ว ก็ได้แต่บอกครูไปว่าน้องรุ้งยังไม่กลับจากกรุงเทพฯจนกระทั่งมาเปิดเจอข่าวมีเด็กหญิงถูกฆ่าถ่วงน้ำ ก็ยังไม่ได้สนใจอะไรเพราะไม่คิดว่าจะเป็นน้องรุ้งหลานสาวของตัวเอง” ผู้เป็นยาย เผย

นางสายสมร พูดต่อว่า ต่อมีญาติที่พักอยู่ข้างห้องลูกสาวโทรมาสอบถามว่าน้องรุ้งกลับมาที่จ.ร้อยเอ็ด รึยังเพราะไม่เห็นน้องรุ้งหลายวันแล้ว อีกทั้งแม่น้องรุ้งบอกว่าพาไปส่งให้ตากับยายที่ร้อยเอ็ดแล้ว ตอนนั้นรู้สึกงงมากเพราะแม่ของน้องรุ้งไม่ได้มาส่งน้องรุ้งเลย ก่อนที่เพื่อนของแม่น้องรุ้งจะโทรมาบอกว่า “ทำใจดีๆนะเด็กที่โดนฆ่าถ่วงน้ำและกำลังเป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้อาจจะเป็นหลานสาวของตนเอง” ทำให้ตกใจมากจึงให้ลูกสาวคนเล็กซึ่งเป็นน้าของน้องรุ้งไปพบตำรวจและขอดูศพเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนพบว่าศพเด็กที่เป็นข่าวคือน้องรุ้งจริงๆ พอลูกสาวคนเล็กโทรมาบอกถึงกับเข่าอ่อนรู้สึกเศร้าใจมาก ไม่คิดว่าลูกสาวและพ่อใหม่จะทำกับหลานได้ขนาดนี้

“หากวันนั้นไม่ให้หลานไปกับแม่ก็คงไม่มาพบจุดจบแบบนี้ ตอนนี้ยายกับตาได้แต่นั่งมองดูชุดนั่งเรียนเก่าๆของหลานที่เหลือทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ส่วนเรื่องศพน้องรุ้งอยากจะได้ร่างกลับมาบำเพ็ญกุศลที่จ.ร้อยเอ็ด แต่ด้วยความที่ตากับยายเป็นคนหาเช้ากินค่ำคงไม่มีเงินค่าจ้างรถนำศพหลานกลับมาบำเพ็ญกุศลที่ร้อยเอ็ด อาจจะให้ลูกสาวคนเล็กและญาติๆที่อยู่กรุงเทพฯเผาศพน้องรุ้งที่กรุงเทพฯเลย แล้วค่อยนำกระดูกกลับน้องรุ้งกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านก็ได้” ยายน้องรุ้ง พูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน