ยังรื้อไม่ได้ ! บ้านสุขาวดี คฤหาสน์พันล้านริมทะเล หลังศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาไม่รับอุทธรณ์ ชี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำได้แค่ปักรั้วกันแนวเขตที่ดินสาธารณะ

จากกรณีที่เมืองพัทยานำกำลังเจ้าหน้าที่จากสำนักการช่างเมืองพัทยา และกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ ลงพื้นที่บริเวณ บ้านสุขาวดี ม.2 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อติดประกาศหมายผลการอุทธรณ์และประกาศคำสั่งของเมืองพัทยา

คนงานขนอุปกรณ์รถแบ็คโฮ เครื่องมือหนักเตรียมรื้อถอนบ้านสุขาวดี

กรณีการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะของบ้านสุขาวดี ซึ่งจัดทำประโยชน์และการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่จำนวน 1 อาคาร ขนาดเล็ก 2 อาคาร บริเวณที่ดินสาธารณะริมทะเลขนาดใหญ่จำนวน 11 ไร่ริมทะเล โดยไม่ได้รับอนุญาตและบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นปัญหาเรื้อรังมาเป็นเวลานาน

คนงานทำได้เพียงการปักรั้วกันแนวเขตที่ดินสาธารณะ

ทั้งนี้สั่งการให้นายช่างตรวจเขตปิดประกาศแจ้งผลการอุทธรณ์คำสั่งเมืองพัทยากรณีที่ทาง “บ้านสุขาวดี” ในนาม บ.เฮลท์ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) ที่ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี ว่าคำสั่งเมืองพัทยาไม่ชอบด้วยกฎหมายสร้างความไม่เป็นธรรมและภาระแก่บริษัทฯ

ด้วยที่ดินที่มีการระบุว่าเป็นที่สาธารณะนั้นเป็นที่ดินที่งอกจากโฉนดของทางบริษัทฯ ซึ่งเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ มีผลให้ทางบริษัทฯมีกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินนั้น และปัจจุบันยังคงเป็นข้อพิพาทระหว่างการขอออกโฉนดที่ดิน ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาอำเภอบางละมุง ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ

ขณะที่อาคารทั้งหมดสามารถดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายได้ แต่หนังสืออุทธรณ์ดังกล่าวพบว่า เจ้าของอาคารมีผู้ลงนามในหนังสือคำอุทธรณ์ในการยื่นร้องต่อคณะกรรมการจำนวน 2 รายนั้น หนังสือไม่ปรากฎการประทับตราสำคัญของทาง บริษัทฯ แต่อย่างใด จึงถือว่าเป็นการอุทธรณ์ที่ไม่มีผลผูกพันกับบริษัทฯ จึงไม่เป็นผู้อุทธรณ์ที่ถูกต้อง และผู้ร้องทั้ง 2 มิใช้ผู้รับคำสั่งเจ้าพนักงานท้อง ถิ่นจึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร วินิจฉัยไม่รับอุทธรณ์ไว้พิจารณา

พร้อมกันนี้ได้ปิดหมายประกาศคำสั่งแบบ ค.7 ที่ลงนามโดย นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เพื่อให้รื้อถอนอาคารดังกล่าวภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ ซึ่งหากพ้นกำหนดแล้วไม่มีการดำเนินการใดๆ เมืองพัทยาก็จะเข้ารื้อถอนเอง ซึ่งหมายดังกล่าวครบกำหนดตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. และเมืองพัทยากำหนดระยะเวลาที่จะเข้ารื้อถอนอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 เม.ย. นั้น

อ่านข่าว ยอมทุบ! บ้านสุขาวดีรื้ออาคารรุกทางสาธารณะ สั่งทำแนวกั้นบนทางริมชายหาด

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. นายสุธรรม เพ็ชรเกตุ รองปลัดเมืองพัทยา รักษาราชการแทนปลัดเมืองพัทยา สั่งการให้ นายเกียรติศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รองปลัดเมืองพัทยา นำเจ้าหน้าที่จากสำนักการช่างเมืองพัทยา และกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ ลงพื้นที่บริเวณอาคารริมทะเล บ้านสุขาวดี ม.2 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อีกครั้ง โดยครั้งนี้ขนกำลังพร้อมอุปกรณ์รถแบ็คโฮ รถบรรทุก และเครื่องมือหนักเต็มอัตรา เพื่อเตรียมรื้อถอนตามกำหนดการ โดยมีตัวแทนจากทางบ้านสุขาวดี สื่อมวลชน ร่วมสังเกตการณ์เป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า แผนในการรื้อถอนอาคารในส่วนของอาคาร A, B และ C โดยในส่วนของอาคาร A นั้นเป็นอาคารขนาดใหญ่ลักษณะเป็นอาคารโครงเหล็ก 2 ชั้น ขนาด 18.30x 55.30 เมตร จำนวน 1 หลัง และป้ายโครงสร้างเหล็กขนาด 10×13 เมตรจำนวน 2 ป้าย ถือเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่รุกล้ำที่ดินสาธารณะ

ขณะที่อาคาร B และ C นั้น ซึ่งเป็นอาคาร ค.ส.ล. ขนาด 35×40 เมตรจำนวน 1 หลัง และอาคาร ค.ส.ล. ขนาด 5×15 เมตร จำนวน 1 หลังบริเวณริมทะเล ที่ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย ในการเว้นระยะจากระดับน้ำทะเลขึ้นสูงขึ้นในระยะ 20 เมตรนั้น

ปรากฎว่าสุดท้ายเมืองพัทยายังไม่สามารถดำเนินการรื้อถอนอาคารรุกล้ำที่สาธารณะประโยชน์ได้ ตามแผนการที่กำหนดไว้ เนื่องจากนายอมรฒิพัฒน์ ภูบาล ซึ่งระบุว่าเป็น ผอ.องค์กรตรวจ สอบภาครัฐ เอกชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน ยื่นเอกสารสำเนาหนังสือแจ้งคำสั่งศาลปกครองระยองที่ทางบ้านสุขาวดี ในนาม บริษัทเฮลท์ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) ที่ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองระยอง กรณีระบุว่าคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี ที่ไม่รับการอุทธรณ์เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กระทั่งศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำวินิจฉัยอุทธรณ์ ที่วินิจฉัยไม่รับอุทธรณ์ไว้พิจารณาไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอื่น

นายเกียรติศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รองปลัดเมืองพัทยา กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับกรณีของบ้านสุขาวดีที่มีปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะนั้น ในวันนี้นำกำลังเจ้าหน้าที่ และเครื่องมือเพื่อเตรียมดำเนินการอย่างเต็มกำลัง ตามกำหนดการซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

แต่ปรากฎว่าทางตัว แทนขององค์กรตรวจสอบภาครัฐ ยื่นหนังสำเนาคำสั่งศาลปกครองระยอง ที่ทางบ้านสุขาวดี ในนาม บริษัท เฮลท์ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ยื่นอุทธรณ์คำสั่ง โดยระบุว่าคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี ที่วินิจฉัยไม่รับการอุทธรณ์นั้น เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และศาลมีคำสั่งให้ทุเลา จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอื่นหรือคำพิพากษา

กรณีดังกล่าวทางเมืองพัทยาก็คงต้องปฏิบัติตามและน้อมรับตามคำสั่งของศาลปกครอง โดยจะยกเลิกภารกิจรื้อถอนอาคาร จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นจากศาล อย่างไรก็ตามหนังสือที่นำมาแสดงเป็นเพียงสำเนา เมืองพัทยาจึงจะนำหนังสือดังกล่าวไปแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บางละมุง ขณะที่คำสั่งของศาลปกครองดังกล่าวเป็นการคุ้มครองในส่วนของตัวอาคารทั้ง 3 หลัง และเป็นการอุทธรณ์คำสั่งของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี

ขณะที่กรณีของแนวเขตที่ดิน และแนวเขตถนนสาธารณะประโยชน์นั้น เมืองพัทยาดำเนินการร่วมกับสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาอำเภอบางละมุง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและรังวัดเป็นมีแนวเขตและผังที่ดินอย่างชัดเจนแล้ว ดัง นั้นจึงขุดเจาะผิวถนนตามแนวเขตเพื่อปักเสาคอนกรีตขนาด 2 เมตรเพื่อกันแนวไว้บางส่วน ก่อนจะนำกำลังและยกเลิกภารกิจดังกล่าว

มีรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีของการทวงคืนที่ดินสาธารณะ “บ้านสุขาวดี” ถือเป็นกรณีที่ประชาชนให้ความสนใจ และติดตามกระแสมาอย่างต่อเนื่องว่าภาครัฐจะดำเนินการสำเร็จและสามารถทวงคืนที่ดินสาธารณะได้สำเร็จ ตามที่ประกาศแจ้งไว้หรือไม่ หลังจากปล่อยปะละเลยให้บุกรุกที่สาธารณะมาเป็นเวลานาน แต่สุดท้ายเมืองพัทยาก็ไม่สามารถบริหาร จัดการ และบังคับใช้กฎหมายกับผู้บุกรุกได้แต่อย่างใด

ขณะที่อีกกระแสระบุว่าการปิดหมายคำสั่งรื้อถอนอาคารแบบ ค.7 ของ “บ้านสุขาวดี” ที่เมืองพัทยาได้ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา และมีกำหนดระยะเวลาให้ทาง บ้านสุขาวดีดำเนินการรื้อถอนภายใน 15 วัน ซึ่งครบกำหนดไปตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.นั้น พบว่าหลังครบกำหนดเมืองพัทยากลับไม่เข้าดำเนินการรื้อถอนตามขั้นตอน แต่กลับรอระยะเวลาการรื้อถอนมาเป็นวันที่ 22 เม.ย. ซึ่งเลยกำหนดมาถึง 13 วัน จนกระทั่งมีคำสั่งทุเลาจากศาลปกครองระยอง จนไม่สามารถรื้อถอนอาคารตามแผนที่กำหนดไว้ได้

จึงเป็นอันที่จะต้องรอการดำเนินการกันต่อไป และก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าการทวงคืนที่ดินสาธารณะประโยชน์ ที่เมืองพัทยาระบุว่ามีหลักฐานครบถ้วน และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างจริงจังนั้น จะสำเร็จและเป็นผลอย่างเป็นรูปธรรมเมื่อไหร่

ภาพบางส่วนจากเฟซบุ๊ก Baan Sukhawadee บ้านสุขาวดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน