ผูกคอ วันที่ 24 เม.ย. พ.ต.อ.วิสุทธิ์ ภูจีระ ผกก.สภ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น นำทีมชุดสืบสวนลงพื้นที่สอบสวนชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานแวดล้อม พร้อมทั้งการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้านโนนไท ต.ท่าวัด อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น และบริเวณใกล้เคียงจุดที่เกิดเหตุ
หลังมีคนพบศพ นายเอื้อม อาจธานี อายุ 55 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ นอนหงายราบกับพื้นดิน ที่ลำคอถูกมัดด้วยเชือกฟางสีแดง ซึ่งมัดโยงกับลำต้นกระถินขนาดเล็ก สูงประมาณ 2 เมตรข้างทาง โดยในจุดที่พบศพไม่มีร่องอยการต่อสู้ และไม่พบบาดแผลตามร่างกายของผู้ตาย จากการตรวจค้นในตัวพบเงินสด 109,000 บาท ยาเส้น 1 ห่อ ไฟแช็ค 1 อัน และหน้ากากอนามัยสีน้ำเงิน 1 ชิ้น อยู่ในกระเป๋ากางเกงทั้ง 2 ข้าง
พ.ต.อ.วิสุทธิ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนเพื่อนบ้านและผู้นำชุมชน ทราบว่า ผู้ตายเป็นคนโสด ไม่เคยแต่งงาน และอาศัยอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง พ่อแม่เสียชีวิตไปนานแล้ว ส่วนพี่ชายกับน้องสาวก็แยกย้ายไปมีครอบครัวอยู่ที่ จ.ระยอง ซึ่งผู้ตายเป็นคนสมถะ ทำนาคนเดียว ได้ข้าวมาก็แบ่งไว้กินบางส่วน ที่เหลือก็ขายหมด
สาเหตุการตายนั้น ยังไม่แน่ชัดว่าฆ่าตัวตาย, มีคนทำให้ตาย หรือถูกฆาตกรรม ซึ่งได้ส่งศพไปชันสูตรที่นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์แล้ว แต่จากการตรวจที่เกิดเหตุพบว่า เสียชีวิตมากกว่า 8 ชั่วโมงแล้ว ซึ่งได้ประสานเจ้าหน้าที่ ศพฐ.4 ร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุ และเก็บรวบรวมวัตถุพยานในที่เกิดเหตุไว้แล้ว จะได้ดำเนินการสอบสวนต่อไป สำหรับญาติที่อยู่ จ.ระยอง ได้แจ้งใทราบแล้ว
เบื้องต้นได้ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือฆ่าตัวตาย และฆาตกรรม ซึ่งขณะนี้ได้มีการเก็บรวบรวมหลักฐานและสอบปากคำชาวบ้านไว้ เพราะหากญาติพี่น้องติดใจสาเหตุการตาย ก็จะได้สืบสวนสอบสวนหาตัวคนที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ก็ต้องรอผลชันสูตรของแพทย์ด้วยว่าการตายนั้น ผูกคอตายเองหรือถูกฆาตกรรม ถ้าผูกคอตายเองญาติพี่น้องก็น่าจะเข้าใจ และถ้าฆาตกรรมก็ต้องมีการสืบสวนว่าเพราะเหตุใด เนื่องจากคนตายไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่โอ้อวด อยู่กินแบบเรียบง่าย เงินจำนวนมาก ก็ยังมัดอยู่ในกระเป๋าโดยไม่มีการค้น หรือร่องร่อยการถูกทำร้ายก็ไม่มี จุดที่พบศพก็ไม่ร่องรอยลากถูแต่อย่างใด
ขณะที่ นายวีระ เตียนขุนทด อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านโนนไท และเป็นเพื่อนกับผู้ตาย กล่าวว่า พอทราบว่าศพที่พบนั้นเป็น นายเอื้อม ก็ตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าจะเสียชีวิตในลักษณะนี้ เนื่องจาก นายเอื้อม เป็นคนง่ายๆ สมถะ ทำนาคนเดียว ได้ข้าวมาก็ขาย และเป็นคนมีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนบ้าน ก่อนจะพบเป็นศพ นายเอื้อม ยังไปช่วยงานศพเพื่อนบ้านที่วัด ก็ยังเห็นปกติ ไม่มีลางบอกเหตุ
แต่หลังจากพระฉันเพล นายเอื้อม ก็หายตัวออกจากวัด มาพบอีกทีก็กลายเป็นศพแล้ว คิดไม่ออกว่า นายเอื้อม จะคิดสั้นด้วยเรื่องอะไร หรืออาจจะมีเรื่องส่วนตัวที่คนอื่นไม่รู้ แต่ถ้าเป็นเรื่องฆาตกรรมก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการชันสูตรศพของแพทย์ ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งให้ญาติทราบเรื่องแล้ว
