วันที่ 28 เม.ย. ที่ห้องประชุม สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 (สส) เดินทางประชุมเร่งรัดติดตามผลความคืบหน้า พร้อมสอบปากคำผู้ต้องหาของคดี พบศพ น.ส.เพ็ญนภา อายุ 33 ปี ถูกทิ้งในคลองชลประทานในเขตพื้นที่ สภ.โพธิ์ทอง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 พ.ย.61

ต่อมาจากการรวบรวมพยานหลักฐานสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา จ.ส.อ.กิตติศักติ์ หรือหวาน เครือทอง อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่ 188/2563 ลง 14 ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 13 พ.ย.61 ร.ต.อ.สมชัย ภูลิลิตร รองสารวัตรสอบสวนสภ.โพธิ์ทอง รับแจ้งจาก นายประดิษฐ์ ผลดี อายุ 60 ปี คนขับรถแบคโฮของกรมชลประทาน ว่าระหว่างที่กำลังขุดลอกวัชพืชในคลองชลประทาน พบศพผู้เสียชีวิตลอยอยู่ในคลองชลประทาน 3 ซ้าย หมู่2 ต.บางระกำ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง

หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์ทอง เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลโพธิ์ทอง และเจ้าหน้าที่สมาคมวีอาร์กู้ภัยอ่างทอง ที่เกิดเหตุในคลองชลประทาน พบศพผู้เสียชีวิตลอยอยู่ในน้ำ

จากการสอบสวน นายประดิษฐ์ ให้การว่า ตนเป็นลูกจ้างของกรมชลประทาน ได้นำรถแบคโฮมาทำการขุดลอกวัชพืชที่ขึ้นอยู่ในลำคลอง เพื่อเปิดทางน้ำและกำจัดวัชพืชให้ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์ ระหว่างที่กำลังขุดลอกวัชพืชในคลองอยู่นั้น สังเกตเห็นว่ามีอะไรลอยอยู่ ตอนแรกคิดว่าเป็นถุงขยะ จึงคิดว่าเมื่อใกล้จะถึงทางตันก็จะตักขึ้น

เนื่องจากจะต้องตักวัชพืชขึ้นมาอยู่แล้ว เมื่อถึงทางตันได้ตักวัชพืชขึ้นมา พบมีลักษณะคล้ายคนหรือหุ่นก็ยังไม่ทราบ จึงเรียกชาวบ้านที่มาหาปลาและนำวัชพืชไปใช้ประโยชน์มาช่วยกันดู พบว่าเป็นศพผู้เสียชีวิตลอยน้ำจึงได้ไปแจ้ง อบต. ให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบ

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ให้นำรถแบคโฮนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาเพื่อชันสูตร จากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นหญิง อายุประมาณ 40 – 45 ปี สูงประมาณ 165 เซนติเมตร สวมใส่ชุดกีฬาสีขาว ที่นิ้วกลางและนิ้วนางมือซ้าย สวมแหวนทองนิ้วละ 1 วง ที่นิ้วกลางมือขวาสวมแหวนเงิน 1 วง พร้อมอัญมณี ที่เล็บโรยกากเพชรสีเงิน

บริเวณศรีษะมีผมเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย ที่ขมับซ้ายมีร่องรอยเหมือนถูกอาวุธปืนยิงทะลุหลังใบหูขวา คาดว่าผู้เสียชีวิต เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 4 -5 วัน เนื่องจากสภาพศพได้เน่าเปื่อยขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นจนจำสภาพไม่ได้

จึงได้ส่งศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อทำการตรวจหาอัตลักษณ์บุคคล และประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ใกล้เคียงให้ทำการตรวจสอบว่ามีการแจ้งบุคคลหายไว้หรือไม่

หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และสืบสวนจนทราบชื่อผู้ตาย โดยได้นำสารพันธุกรรม ตรวจเปรียบเทียบ กับมารดาของผู้ตาย จากนั้นจึงทำการสืบสวนหาข้อมูลและพยานหลักฐานจนกระทั่งสืบทราบได้ว่าคนร้าย ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ คือ จ.ส.อ.กิตติศักดิ์

พนักงานสอบสวน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 13 ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เพื่อขออนุมัติออกหมายจับ ซึ่งได้มีหนังสือแจ้งไปยังต้นสังกัดของผู้ต้องหา ที่รับราชการทหาร และต่อมาต้นสังกัด ได้ติดต่อขอส่งตัวผู้ต้องหาต่อเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์ทอง พร้อมกับทนายความ

จากการสอบสวน จ.ส.อ.กิตติศักดิ์ เบื้องต้น ยอมรับว่าตนรู้จักและมีความสนิทในเชิงชู้สาวกับผู้ตาย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พอที่จะรู้สาเหตุที่ทำให้ผู้ต้องหาคิดก่อเหตุในครั้งนี้ แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนผู้ต้องหา หลังจากพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเสร็จแล้ว ก็จะนำตัวผู้ต้องหาเดินทางไปฝากขังที่เรือนจำ มทบ.13 จังหวัดลพบุรี เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน