วันที่ 1 มิ.ย. ร.ต.อ.ณัฐพัชร ท้วมสุข รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจยย.ชนประสานงากันมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายรางยอม-หนองโรง หมู่ 8 ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์พนมทวน เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 เลนแบบสวนกัน บริเวณกึ่งกลางถนนพบรถจยย.ฮอนด้าดรีม สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 1กฌ 6600 นครปฐม ชนกับรถจยย.ยามาฮ่านูโว สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน 1กท 1879 สุพรรณบุรี สภาพด้านหน้ารถทั้ง 2 คัน มีร่องรอยการชนประสานงาจนพังยับ อีกทั้งยังมีร่องรอยการถูกเผาไหม้จนรถพังเสียหายเกือบทั้งคัน โดยข้างรถจยย.ทั้ง 2 คัน พบศพ นายเล็ก สีสุขสาม อายุ 62 ปี มีร่องรอยถูกไฟเผาไหม้เกือบทั่วร่าง และยังพบศพของ นางบุญเทียม วิเศษสิงห์ อายุ 59 ปี สภาพศพกะโหลกศีรษะแตกเป็นแผลขนาดใหญ่มีเลือดไหลนองเต็มพื้น แขนและขาหัก
นอกจากนี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ว่ายังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเด็กชายอายุ 11 ปี อีก 1 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่และพลเมืองดีได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้แล้ว จากการสอบสวนญาติของ นายเล็ก ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเล็ก ได้ขี่รถจยย.ออกจากบ้านเพื่อไปซื้อน้ำมันมาเติมเครื่องพ่นยา หลังจากไปซื้อน้ำมันใส่ขวดที่บริเวณตัวตลาดบ้านรังยาและกำลังขี่รถจยย.มุ่งหน้ากลับบ้าน ก็ได้เกิดขี่รถมาชนประสานงาเข้ากับรถจยย.ของ 2 ป้าหลานคู่กรณี
ซึ่งจากความแรงของรถทั้ง 2 คัน ที่ชนประสานงากันเข้าอย่างจัง ส่งผลให้ นางบุญเทียม ซึ่งเป็นคู่กรณี ศีรษะฟาดกับพื้นเข้าอย่างแรง จนเสียชีวิตคาที่ ส่วนหลานชายวัย 11 ปีที่นั่งมาด้วยก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ นายเล็ก ร่างล้มลงกระแทกพื้น และถูกน้ำมันที่อยู่ในขวดที่ซื้อมาหกใส่ตัวก่อนจะเกิดไฟลุกไหม้เผาร่างของ นายเล็ก จนเสียชีวิต
เบื้องต้นจากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการพยายามเบรกรถของรถจยย.ทั้ง 2 คัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ขณะที่รถจยย.ทั้ง 2 คัน กำลังขี่สวนกันบนถนนเส้นดังกล่าว ต่างฝ่ายต่างพยายามที่จะโยกหลบน้ำที่ท่วมขังอยู่ริมถนนทำให้พุ่งเข้ามาชนกันที่บริเวณกึ่งกลางถนนจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว