วันที่ 3 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีค่างแว่นถิ่นใต้ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ได้ถูกฝูงค่างแว่นถิ่นใต้ฝูงใหญ่ที่อยู่อาศัยบริเวณเขาล้อมหมวก ภายในกองบิน 5 กองทัพอากาศ ได้ขับออกจากฝูงและไม่สามารถกลับเข้าฝูงได้ โดยอาศัยสวนป่าริมรั้วกองบิน 5 และสวนกลางเมืองซึ่งเป็นที่ดินเอกชน แล้วถูกชาวบ้านบางคนใช้หนังสติ๊กยิงได้รับบาดเจ็บ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ทั้งนี้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ประสานข้อมูลเบื้องต้นไปยังสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยได้ส่ง สัตวแพทย์หญิงกนกวรรณ ตรุยานนท์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมทีมงานเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบการอยู่อาศัยของค่างแว่นถิ่นใต้ที่เขาล้อมหมวก เพื่อนำค่างแว่นถิ่นใต้ที่ถูกขับออกมา 5 ตัว เพื่อไปรักษาและพักฟื้นเนื่องจากปัญหาค่างแว่นอยู่ในตัวเมืองในสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมกับวิถีธรรมชาติของค่างแว่นถิ่นใต้

ทั้งนี้สัตวแพทย์หญิงกนกวรรณ ตรุยานนท์ ได้สำรวจจุดที่ชาวบ้านชุมชนหัวบ้าน เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ พบค่างแว่นถิ่นใต้ซึ่งถูกขับจากฝูงมาแอบอาศัยบริเวณสวนต้นตีนเป็ด และค่างแว่นถิ่นใต้ได้เดินหากินไปตามบ้านเรือนประชาชนและที่บริเวณตลาดสดเทศบาลเพื่อหาของกินประทังชีวิต โดยสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้ออกตระเวนค้นหายังจุดต่างๆ กระทั่งมีชาวบ้านแจ้งว่าค่างแว่นถิ่นใต้ทั้งหมด แอบพักอาศัยอยู่บริเวณสวนป่าใกล้กับสำนักงานไปรษณีย์ไทย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากเป็นสวนมีต้นไม้ปกคลุมครึ้ม เจ้าหน้าที่จึงค้นหา เมื่อพบตัวจึงพยายามสื่อสารร้องเรียกให้ค่างแว่นลงจากต้นไม้ แต่ไม่สำเร็จในเบื้องต้น

โดยสัตวแพทย์หญิงกนกวรรณ ตรุยานนท์ ได้เตรียมยาสลบผสมน้ำแดง คอยหลอกล่อให้ค่างแว่นกิน พร้อมกับถั่วลิสง และกล้วยน้ำว้า พร้อมทั้งให้ทีมงานคอยสังเกตในระยะใกล้เพื่อคอยจับตัว แต่เนื่องจากเป็นคนแปลกหน้า ค่างแว่นถิ่นใต้ฝูงนี้จึงไม่ลงจากต้นไม้ เพราะหวาดกลัวว่าเป็นคนแปลกหน้าและจดจำพฤติกรรมของคนที่ทำร้าย ยิงหนังสติ๊กใส่จนบาดเจ็บ จึงเกิดความระแวง ประกอบกับการถูกขับไล่ออกจากฝูงเดิม ทำให้ไม่สามารถนำกลับไปรวมฝูงได้

จากนั้นได้ประสานนางเทียน วัฒนา อายุ 49 ปี ชาวบ้านชุมชนหัวบ้าน ที่คอยให้อาหารและน้ำแก่ค่างแว่นถิ่นใต้ทุกเช้า ทำให้มีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี มาร้องเรียกให้ค่างแว่นถิ่นใต้ลงมากินถั่วลิสง และน้ำดื่มผสมยานอนหลับ โดยใช้เวลาเกลี่ยกล่อมอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง กระทั่งค่างแว่นถิ่นใต้ทยอยลงจากยอดบนต้นไม้ลงมาหยิบถั่วลิสงจากมือไปกิน แต่ยังคงมีความตื่นกลัวคนแปลกหน้า จึงปืนขึ้นไปบนยอดไม้อีกครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้ปืนลมยิงยาสลบ โดยใช้เวลารอไม่นานก็สลบจนสามารถจับตัวได้อย่างง่ายก่อนนำตัวค่างแว่นถิ่นใต้ใส่กรงสำหรับพักฟื้นได้สำเร็จ เพื่อตรวจตามร่างกายของค่างแว่นถิ่นใต้พบว่าที่ขามีร่องรอยแผล ขนาดความกว้างประมาณ 1 เซนติเมตร ยาว 3-5 เซนติเมตร อยู่หลายแห่ง

นางเทียน วัฒนา อายุ 49 ปี ชาวบ้านชุมชนหัวบ้าน กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่วันนี้มีทีมหมอ สัตวแพทย์ช่วยนำค่างแว่นกลับสู่ธรรมชาติ เพราะอยู่ในตัวเมืองอาจสร้างความไม่พอใจแก่คนบางกลุ่มได้ เนื่องจากค่างแว่นเป็นสัตว์ที่ซุกซนตามประสา แต่ยังคงความน่ารักน่าเอ็นดู ส่วนตัวที่มีบาดแผลหรือป่วย ก็อยากให้หมอช่วยรักษา มันจะได้ไม่ตาย

อย่างไรก็ตามทีมเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้นำค่างแว่นถิ่นใต้ทั้งหมดไปพักฟื้นเพื่อตรวจสุขภาพและรักษาโรคที่ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย จังหวัดเพชรบุรี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอาการบาดเจ็บ จากการถูกทำร้าย ตรวจบาดแผล และอาการป่วยต่างๆของค่างแว่นถิ่นใต้อย่างละเอียด หากหายดีเป็นปกติ จึงพิจารณาปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน