จากเหตุฆาตกรรมหญิงสติไม่ดีชาวโรฮินจา ถูกร้ายก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ แล้วนำศพไปฝังในทราย บริเวณชายหาดละไม เกาะสมุย และมีผู้พบศพเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ล่าสุดเจ้าหน้าที่รู้ตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุแล้วเป็นชายชาวเมียนมา
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 4 ก.ค. พ.ต.ท.ศิรชัย เกิดศรี รอง ผกก.สส.สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยความคืบหน้าของคดีฆาตกรรมหญิงสาวชาวโรฮินจาที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปลายแหลมแทงที่ช่องท้อง แล้วน้ำศพมาฝั่งไว้ในทราย บริเวณชายหาดละไม ม.3 ต.มะเร็ต ก่อนจะมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้กลิ่นศพเหม็นโชยออกมา จึงได้หาที่มาแล้วขุดทรายลงไปจึงพบว่าเป็นศพคน และทราบต่อมาว่าผู้เสียชีวิตชื่อว่า นางรูซี่ หรือยายช้าง ตามที่ชาวบ้านเรียก
นักท่องเที่ยวต่างชาติยืนดูการขุดศพผู้เสียชีวิตริมหาดละไม
พ.ต.ท.ศิรชัยกล่าวว่า จากการสอบปากคำพยานบุคคลทราบมาว่า ผู้ตายเป็นหญิงสติไม่สมประกอบ อยู่ที่เกาะสมุยมานานกว่า 10 ปีแล้ว มีนิสัยชอบด่าทอคนอื่นไปทั่ว จะเดินไปเดินมาอยู่ในย่านแหล่งท่องเที่ยวหาดละไม และชอบเดินไปขอเงินกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่ละวันจะได้เงินมาไม่ต่ำกว่า 300 บาท นอกจากนี้ยังทราบอีกว่าผู้ตายยังมีสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทใส่ติดตัวอยู่ด้วย
นางรูซี่ หรือยายช้าง ชาวโรฮิงญา ผู้เสียชีวิต
พ.ต.ท.ศิรชัยกล่าวว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดพบเห็นนางรูซี่ครั้งสุดท้ายเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เวลา 22.00น. ขณะเดินอยู่ที่หาดละไม และก็ไม่พบเห็นผู้ตายอีกเลย ส่วนการลงพื้นที่หาข่าวของทางฝ่ายสืบสวนได้เบาะแสเพิ่มเติม และรู้ตัวผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าก่อเหตุแล้ว ชื่อนายอาว สัญชาติเมียนมา เป็นพนักงานปล่อยเจ็ตสกีเช่าอยู่ที่หาดละไม
นายอาว ผู้ต้องสงสัยชาวเมียนมา
พ.ต.ท.ศิรชัยกล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้ออกจากเกาะสมุยไปแล้ว คาดว่าจะกลับประเทศเมียนมา ผ่านด่านพรมแม่สอด จ.ตาก ซึ่งก็ได้ประสานไปยังทหารและตำรวจตม.แม่สอด จ.ตาก ให้ช่วยตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยแล้ว ส่วนสาเหตุจูงใจที่ก่อเหตุได้ให้น้ำหนักไปในทาง ฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ เพราะทรัพย์สินของผู้ตายที่เป็นสร้อยทองคำได้หายไป
