ทีมกู้ภัยและนักประดาน้ำ รวมกว่า 100 คน ระดมค้นหาผู้สูญหาย 2 ราย หลังคลื่นซัดเรือจับหมึกล่ม กลางทะเลหัวหิน ยังไม่ทราบชะตากรรม ส่วนผู้รอดชีวิต 1 รายอยู่ในอาการเครียด

เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ศูนย์วิทยุ สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุเรือประมงพลิกคว่ำ มีผู้รอดชีวิตเป็นชาย 1 ราย และสูญหายใต้น้ำเป็นชายอีก 2 ราย กลางทะเลหัวหิน หมู่บ้านเขาตะเกียบ ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากชายฝั่งออกไปในทะเลประมาณ 400-500 เมตร

หลังรับแจ้งเหตุจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยบริการประชาชนเขาตะเกียบ ออกตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน รีบเดินทางไปยังที่เกิด พร้อมจัดทีมนักประดาน้ำและเรือยาง ออกค้นหาผู้สูญหายอย่างเร่งด่วน

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้รอดชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายฐานิช หรือโอ บุญศรี อายุ 35 ปี อาชีพรับจ้างดูแลสระน้ำ กำลังนั่งอยู่ที่บริเวณชายหาดหน้าโรงแรมชมคลื่น ท่าทีวิตกกังวลและอยู่ในอาการเครียด และเสียใจที่ไม่สามารถช่วยชายอีก 2 ราย ที่ตกน้ำให้กลับขึ้นฝั่งมาพร้อมกันได้

นายฐานิช ผู้รอดชีวิต(ขวา)

นายฐานิช เล่าวินาทีชีวิตให้ฟังว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ตนพร้อมนายยอดชาย พิมพ์สุวรรณ น้าของตน และนายกล้า สิงห์โตทอง เพื่อนของน้า ทั้ง 2 คนทำงานที่โรงแรมชมคลื่น และใช้เวลาหลังเลิกงานตั้งแต่เย็นถึงค่ำ รวมถึงวันหยุด ขับเรือไฟเบอร์ออกไปจับหมึกเพื่อหารายได้เสริม วันนี้เป็นวันหยุด ทั้งหมดจึงได้ชวนกันออกเรือไปจับหมึกตามปกติ โดยนำเรือมาลงทะเลออกจากบริเวณหน้าหาดโรงแรมชมคลื่น

นายฐานิช กล่าวต่อว่า เมื่อขับออกไปห่างฝั่งได้ราว 400-500 เมตร ขณะกำลังจะเริ่มวางสมอเพื่อเตรียมลงแหจับหมึก ปรากฏว่าคลื่นลมทะเลเกิดแปรปรวน และคลื่นเริ่มแรงขึ้น จนทำให้เรือโคลงเคลงไปมา ทุกคนบนเรือพยายามทรงตัวแล้ว แต่เกิดพลาดท่าไปเหยียบแคมเรือ ทำให้เรือพลิกคว่ำและจมลงก้นทะเลอย่างรวดเร็ว








Advertisement

นายฐานิช กล่าวอีกว่า ตนพยายามหาที่เกาะเพื่อลอยตัว โดยนายยอดชาย ซึ่งเป็นน้า ชี้ให้ตนคว้าลังโฟมที่อยู่ใกล้มาเกาะพยุงตัว จากนั้นตนได้คว้าตัวน้าชายและเพื่อนน้าไว้ได้ ตนพยายามตีขาเพื่อเข้าฝั่งและใช้อีกมือที่เหลือจากเกาะลังโฟม แล้วลากทั้ง 2 คนไว้และพยายามพากลับเข้าฝั่ง แต่คลื่นทะเลแรงมาก

“ว่ายน้ำมาได้ไม่นาน ผมเกิดหมดแรง เพราะระยะห่างจากฝั่งยังไกล ทำให้ไม่สามารถช่วยน้าชายและเพื่อนน้าอีก 2 คนได้ ต้องตัดสินใจปล่อยมือจากร่างของทั้ง 2 คนไว้กลางทะเล ก่อนที่จะพยายามว่ายน้ำต่อ นานกว่า 30 นาที จนกลับถึงชายหาดได้สำเร็จและรีบร้องตะโกนขอความช่วยเหลือทันที” นายฐานิช กล่าว

เมื่อทีมนักประดาน้ำมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน ทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว จึงจัดเรือท้องแบนและเรือยาง ออกค้นหาร่างผู้สูญหาย แต่เพราะเป็นเวลามืดแล้ว ประกอบกับพื้นที่ค้นหากว้าง และคลื่นลมทะเลแรง จึงประสานไปยังตำรวจน้ำปราณบุรี นำเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง 527 ออกค้นหาซากเรือและผู้สูญหาย

นอกจากนี้ยังประสานทีมนักประดาน้ำจากมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลปราณบุรี, มูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน, มูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม และมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ร่วมจัดเรือยาง เจ็ทสกี และเจ้าหน้าที่ประจำเรือ กว่า 100 คน ระดมกำลังค้นหา ท่ามกลางประชาชนและพนักงานโรงแรมชมคลื่น มาติดตามการค้นหาด้วยความเป็นห่วงเป็นจำนวนมาก

นายวิสุทธิ์ บุญยศักดิ์เสรี เจ้าหน้าที่ที่มาร่วมทีมค้นหา กล่าวว่า การค้นหาในค่ำนี้ได้กำหนดจุดวางทุนตามพิกัดที่ได้รับแจ้งไว้ เพื่อค้นหาผู้สูญหาย มีกำลังเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำและเจ้าหน้าที่ประจำเรือประมาณ 30-40 นาย ส่วนที่เหลือเป็นทีมกู้ชีพ และทีมสนับสนุน ที่พร้อมเปลี่ยนตัวทำงานต่อ โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานข้างเคียงสนับสนุนนักประดาน้ำพร้อมอุปกรณ์อีก 4 จังหวัด รวมหัวหิน เป็น 5 จังหวัดช่วยกันค้นหา โดยอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทุกนายเป็นสำคัญ

ด้านนายชลธี เลาหกรรณวนิช หัวหน้าชุดนักประดาน้ำ มูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า ได้วางแผนร่วมกันทุกฝ่าย กำหนดจุดวางทุ่นในทะเล ความยาวประมาณ 200 เมตร ห่างฝั่ง 400 เมตร และวางทุ่นใต้น้ำที่ระดับน้ำลึก 6 เมตร เพื่อวางเชือกไลน์ใต้น้ำสำหรับเป็นไกด์ไลน์ให้นักประดาน้ำค้นหาได้โดยไม่หลงน้ำ โดยทีมน้ำประดาน้ำ 9 คน จะค้นหาแบบเรียงหน้ากระดานผิวน้ำ 4 คน และใต้น้ำอีก 5 คน และขยับพิกัดย้ายทุ่นเพื่อค้นหาใหม่ ห่างจากจุดเดิมครั้งละ 10 เมตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นพบซากเรือไฟเบอร์ที่จมแล้ว ส่วนอุปกรณ์ และกระเป๋า ลอยอยู่ในน้ำ แต่ยังไร้วี่แววผู้สูญหายทั้ง 2 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยตัดสินใจยุติการค้นหาเป็นการชั่วคราว เมื่อเวลา 02.00 น.ของวันที่ 9 ก.ค. โดยจะเริ่มค้นหาอีกครั้งในช่วงเช้า และจะมีการประเมินสภานการณ์ใหม่อีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน