จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพน้ำเน่าเสีย บริเวณชายหาดพัทยาและท่าเทียบเรือเก่าพัทยาใต้ ปากทางเข้าวอล์กกิงสตรีท หลังสถานีสูบน้ำโครงการระบบบำบัดน้ำเสียเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยทางเมืองพัทยาได้นำกำลังลงพื้นที่แก้ไขปัญหาเป็นการเร่งด่วน พร้อมระบุว่าปัญหาดังกล่าวเกิดจากน้ำฝนที่ไหลบ่ามาจากทิศตะวันออกของเมืองพัทยา ไหลเข้ามารวมในระบบระบายน้ำซึ่งมีปริมาณน้ำเสียค้างท่ออยู่จำนวนหนึ่ง

ก่อนที่จะถูกระบายลงสู่ทะเลส่งผลให้เกิดภาพที่สร้างผลกระทบต่อการท่องเที่ยว กระทั่งต่อมากรมควบคุมมลพิษได้ลงพื้นที่เมืองพัทยา เพื่อให้เร่งวางมาตรการในการแก้ไขปัญหาระบบบำบัดน้ำเสียโดยด่วน เนื่องจากพบว่ามีความชำรุดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสถานีสูบทำให้มีปัญหาน้ำเสียค้างท่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากปล่อยไว้ก็อาจส่งผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเลในระยะยาวได้

วันที่ 20 ก.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บริเวณชายหาดพัทยาและท่าเทียบเรือเก่าพัทยาใต้ หลังเกิดพายุฝนซัดกระหน่ำอย่างหนักในช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา เบื้องต้นพบว่าสภาพน้ำบริเวณนี้ยังคงมีปัญหาสกปรก ลักษณะขุ่นดำเป็นตะกอนจากสิ่งปฏิกูลที่ไหลมาตามท่อระบบระบายเดิมที่รอการแก้ไข ทำให้น้ำทะเลมีสีขุ่นดำกระจายเป็นวงกว้างกว่า 300 ตารางเมตร ขณะที่บริเวณตลอดแนวชายหาด ก็มีเศษซากของขยะและสิ่งปฏิกูลอยู่อย่างเกลื่อนกลาดส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ด้านสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยว

ขณะที่เมืองพัทยาแจ้งว่า ปัจจุบันได้รับงบประมาณสนับสนุนในปี 2560 นี้ ตามแผนการพัฒนาระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC จำนวน 27 ล้านบาท เพื่อเร่งทำการปรับปรุง และดำเนินการแก้ไขติดตั้งเครื่องสูบน้ำใหม่ทดแทนเครื่องเก่าที่เสียหายให้แล้วเสร็จภายใน ก.ค. นี้ และมีแผนที่จะปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย ที่โรงบำบัดน้ำเสียหนองใหญ่ในการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ซึ่งมีการของบประมาณสนับสนุนเพิ่มเติมจากกระทรวงมหาดไทยจำนวน 60 ล้านบาทต่อไปด้วย เพื่อแก้ปัญหาน้ำเสียดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน