แม่ร้องขอครูสาวเลิกโกรธลูกชายวัย 9 ขวบ หลังลูกชายผวาไม่อยากไปโรงเรียน โดยครูอ้างว่าเด็กเอาเครื่องคิดเลขมาเล่นในโรงเรียน เลยใช้ไม้ตีหัว และห้ามไม่ให้เพื่อนในห้องเรียนคบหาและกินข้าวด้วย ย้ายโรงเรียนหนีเด็กยังผวาและไม่มีเพื่อนในหมู่บ้านมาเล่นด้วย เพราะครูได้สั่งไว้ก่อนหน้าหากใครมาเล่นด้วยจะตีให้หลังแตก วอนครูเมตตา แม่ต้องออกจากงานมาดูลูก
วันที่ 21 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากร้านทองชื่อดังแห่งหนึ่งว่ามีเด็กชายวัย 9 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.3 ถูกครูประจำชั้นทำร้ายแล้วยังไม่พอ ยังมีพฤติกรรมซ้ำเติม สร้างความเจ็บช้ำให้ทั้งแม่และลูก จนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของครอบครัว
เมื่อไปตรวจสอบ พบนางวิยะดา จารัมย์ อายุ 36 ปี พร้อมสามีและลูกชายอีก 2 คน อาศัยอยู่บ้านไม่มีเลขที่ท้ายหมู่บ้านเล็บเหยี่ยว ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ สอบถามถึงเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น โดยนางวิยะดา เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังว่า
เมื่อเดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงสอบก่อนปิดเทอม ลูกชายขณะนั้นอยู่ชั้น ป.2 เมื่อกลับมาถึงบ้านบอกว่าปวดหัว ตรวจดูพบมีรอยเขียวบริเวณขมับขวา สอบถามลูกชายบอกว่าถูกครูประจำชั้นโรงเรียนแห่งหนึ่ง อยู่ติดกับวัดไตรภูมิ ใกล้บ้าน ใช้ไม้ตี รุ่งเช้าต้องพาไปพบหมอ เพราะลูกปวดหัวตลอดทั้งคืน
จากนั้นเจ้าของร้านทองแห่งหนึ่งในตัวเมือง ซึ่งเป็นนายจ้าง แนะนำให้ไปพบผู้อำนวยการ เพื่อแจ้งให้ทราบว่ามีครูตีเด็กรุนแรง แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้กับครูสาวคนดังกล่าว ภายในวันนั้นไม่ปล่อยให้ลูกชายกลับบ้าน ตนเองซึ่งรอลูกชายอยู่หน้าโรงเรียนต้องเข้าไปหา พบลูกชายถูกดุด่า ร้องไห้ ครูอ้างว่าเด็กเอาเครื่องคิดเลขมาเล่นในโรงเรียน จึงกราบขอโทษครูแทนลูก
ครูสาวยังไม่เลิกอาฆาต ได้สั่งห้ามไม่ให้เพื่อนลูกชายในห้องเรียนคบหา และห้ามไปรับประทานอาหารด้วย หากใครฝ่าฝืนจะตีให้แรงกว่า ทำให้ลูกชายต้องอยู่คนเดียวในโรงเรียนอย่างโดดเดี่ยว เมื่อสอบถามเพื่อนลูกชายก็พบว่าเป็นเรื่องจริง จนกระทั่งนายจ้างแนะนำให้แจ้งความดำเนินคดี แต่ไม่กล้าเกรงว่าครูจะได้รับผลกระทบ ได้แค่วิงวอนครูอย่าเกลียดลูกชาย และทำได้เพียงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมือง บุรีรัมย์
นางวิยะดา ยังเล่าทั้งน้ำตาว่า หลังจากสอบเสร็จจึงขอย้ายลูกชายไปเรียนที่อื่น แต่เรื่องก็ยังไม่จบ เพราะลูกชายไม่อยากไปโรงเรียน เนื่องจากยังหวาดกลัวไม่ทราบว่าครูคนดังกล่าวได้พูดอาฆาตอะไรไว้ก่อนหน้านี้ จนล่าสุดลูกชายไม่มีเพื่อนเล่นในหมู่บ้าน ซึ่งคาดว่าครูคนนั้นจะสั่งห้ามไม่ให้เพื่อนลูกชายภายในห้องมาเล่นด้วย ทำให้กลายเป็นคนไม่มีเพื่อนในหมู่บ้าน จึงอยากจะวอนให้ครูเลิกอาฆาตเด็ก ขอให้เห็นแก่ครอบครัวจนๆ เพราะตอนนี้ตนเองไม่ได้ไปทำงาน เพราะห่วงความรู้สึกลูกชาย ต้องคอยรับส่ง ไม่เว้นตอนเที่ยงวันต้องไปดูที่โรงเรียนเพื่อให้ลูกอุ่นใจ
