ญาติหนุ่มบิ๊กไบก์วัย 19 ปี ถูกกระบะตีนผีชนดับแล้วหนี ยังมึนตร.ยังจับคนร้ายไม่ได้ เพิ่มเงินรางวัลนำจับเป็น 3 หมื่น แม่จุดธูปขอวิญญาณลูกช่วยจับคนร้าย

กรณีญาติ นายนฤทธิ์ กองภา อายุ 19 ปี ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ร้องทุกข์ผ่านเครือข่ายยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ ให้ตามหาคนขับรถกระบะ สีขาว ไม่ทราบทะเบียน ที่พุ่งชนเสียชีวิตแล้วหนี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.63 เวลา 15.00 น. บนถนนสายห้วยเม็ก-กระนวน ผ่านมานานกว่า 20 วันยังไม่พบเบาะแสรถคู่กรณีและคนขับ เนื่องจากกล้องวงจรปิดชำรุดหมด ญาติสุดเศร้าหวั่นเสียชีวิตฟรี ไม่มีคนรับผิดชอบ ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 59 หมู่4 บ้านพิทักษ์พัฒนา ต.ห้วยเม็ก อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของ นายสุทัศน์ ประทุมมา อายุ 68 ปี และนางจินดาภรณ์ ประทุมมา อายุ 44 ปี แม่ของ นายนฤทธิ์ กองภา อายุ 19 ปี ผู้เสียชีวิต ซึ่งในทุกวันทุกคนจะมาจุดธูปต่อหน้าภาพถ่ายนายนฤทธิ์ เพื่อให้ดวงวิญญาณนายนฤทธิ์ ช่วยชี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตามตัวคู่กรณีมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

รวมทั้งขอให้ดลใจคนขับรถกระบะคันดังกล่าวมามอบตัว และแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากตั้งแต่วันที่เกิดเหตุกระทั่งถึงวันนี้ที่จะครบ 1 เดือนแล้ว ยังไม่พบร่องรอยของรถกระบะและคู่กรณีเลย

ต่อมา นายสุทัศน์ ประทุมมา อายุ 68 ปี ตาของนายนฤทธิ์ หนุ่มบิ๊กไบก์ผู้เสียชีวิต และนายคำตา บุตรวงศ์ เครือข่ายยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ เดินทางไปสอบถามความคืบหน้า ผลการติดตามรถกระบะและคนขับคู่กรณี กับ พ.ต.อ.ประยุทธ์ อรัญโชติ ผกก.สภ.ห้วยเม็ก ที่สภ.ห้วยเม็ก ซึ่งเป็นการเข้าสอบถามเป็นครั้งที่ 3 หลังจากครั้งล่าสุดเข้าสอบถามเมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา กับ พ.ต.ต.วสุวัฒน์ หลานวงษ์ พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก แต่ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

นายคำตา กล่าวว่า ญาติทุกคนยังมีความหวังจากการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ห้วยเม็ก ว่าจะสามารถติดตามรถกระบะสีขาว 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งเป็นรถคันต้องสงสัยปรากฏในภาพ ที่ได้จากกล้องวงจรปิดของเอกชนที่จับภาพไว้ได้ แต่เวลาผ่านมาจนจะครบ 1 เดือนแล้วยังไร้วี่แวว ทั้งรถทั้งคนขับคู่กรณียังล่องหน

ญาติทุกคนจึงร้อนใจและไม่สบายใจว่านายนฤทธิ์จะเสียชีวิตฟรี โดยไม่มีคู่กรณีมาแสดงความรับผิดชอบ หรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงมาติดตามความคืบหน้ากับ พ.ต.อ.ประยุทธ์ อรัญโชติ ผกก.สภ.ห้วยเม็ก ซึ่งเป็นหัวหน้าโรงพักแห่งนี้อีกครั้งหนึ่ง

นายสุทัศน์ กล่าวว่า จากการสอบถามหัวหน้าสถานีตำรวจ สภ.ห้วยเม็กในวันนี้ ก็ยังไม่มีความคืบหน้าว่า จะพบเบาะแสรถและคนขับคู่กรณีเลย ก็รู้สึกมึนงงมากเหมือนกัน เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นกลางวันแสกๆ คือเวลาประมาณ 15.00 น. ก็น่าจะมีพยานหลักฐานบ้าง แต่นี่เจ้าหน้าที่บอกว่าหาพยานหลักฐานไม่ได้

อีกทั้งพยานบุคคลก็ให้การไม่ตรงกัน และกล้องวงจรปิดของทางราชการเสียหายหมด ส่วนภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดของเอกชนก็เห็นเพียงด้านข้างรถคู่กรณีเท่านั้น จึงยังไม่สามารถติดตามรถคันดังกล่าวมาดำเนินคดีได้

นายสุทัศน์ กล่าวต่อว่า ถึงวันนี้รู้สึกท้อแต่ก็ยังมีความหวัง ว่าจะไม่เกินความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม ตนและญาตินายนฤทธิ์ทุกคนพร้อมใจกันตั้งรางวัลนำจับเบื้องต้นไว้ 20,000 บาท แต่ยังไม่มีใครแจ้งเบาะแสเข้ามา

ในวันนี้จึงได้เพิ่มเงินรางวัลนำจับขึ้นอีกเป็น 30,000 บาท ดังนั้นจึงอยากขอความร่วมมือประชาชนทั่วไป ที่เห็นเหตุการณ์ หรือพบเห็นรถคันที่ต้องสงสัย ได้แจ้งเบาะแสมาที่ตนที่หมายเลขโทรศัพท์ 065-0816495 หรือ 082-124-3917 หรือ สภ.ห้วยเม็ก 043-889-103 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้าน พ.ต.อ.ประยุทธ์ อรัญโชติ ผกก.สภ.ห้วยเม็ก กล่าวว่า คดีดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก ติดตามหาเบาะแสและสอบถามพยานแวดล้อมหลายปาก แต่ยังไม่มีความชัดเจนพอที่จะออกหมายเรียกคนขับรถต้องสงสัยได้ เนื่องจากพยานยังให้การไม่ตรงกัน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของรูปพรรณสัณฐานรถคันที่ต้องสงสัย ทั้งสีรถ ขนาดรถ ทิศทางการขับเคลื่อนของรถ

ขณะที่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่ารถต้องสงสัยขับผ่านชำรุดหมด ส่วนภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดของเอกชน ที่จับภาพได้ก็อยู่ในระยะไกล และมองเห็นเพียงด้านข้างขวาของรถ จึงไม่สามารถมองเห็นหมายเลขทะเบียนรถคันดังกล่าวได้

พ.ต.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเป็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน ก็ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ มีการกระจายกำลังออกติดตามตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังประกาศประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือกับตำรวจพื้นที่ใกล้เคียง

รวมทั้งประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนท่านใด ที่ติดกล้องหน้ารถและสามารถบันทึกภาพอุบัติเหตุดังกล่าวไว้ได้ ก็ให้นำหลักฐานมามอบให้เจ้าหน้าที่ เพื่อที่จะง่ายในการติดตามรถคู่กรณีคันดังกล่าว ซึ่งหากพบเบาะแสและมีความคืบหน้าประการใด ก็จะแจ้งให้ทางญาติผู้เสียชีวิตทราบต่อไป จึงขอโอกาสให้เจ้าหน้าที่ติดตามรถและคนขับคู่กรณีอีกสักระยะ เนื่องจากพยานหลักฐานยังคลุมเครืออยู่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน