เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลโนนยอ อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา เข้าพบกับนายก้องเกียรติ แคนสี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200 หมู่ที่ 3 ต.โนนยอ อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนยอ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง กรณีที่มีเจ้าหน้าที่ของอบต.ปลอมแปลงเช็คแล้วนำไปขึ้นเงิน
นายก้องเกียรติ แคนสี กล่าวว่า เรื่องการปลอมแปลงเช็คเป็นเรื่องจริง คือเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากผู้จัดการธนาคาร ธกส.สาขาชุมพวง จ.นครราชสีมา ว่า มีผู้นำเช็คมาขึ้นเงินที่ธนาคาร โดยเช็คดังกล่าวเลขที่ 22627515 ลงวันที่ 14/07/60 สั่งจ่ายให้กับร้านแห่งหนึ่ง เป็นจำนวนเงิน 4,446,164 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สั่งจ่ายมากผิดปกติ
ที่ผ่านมาทางอบต.โนนยอ ไม่เคยสั่งจ่ายเช็คเป็นจำนวนเงินมากขนาดนี้มาก่อน และในเช็คยังมีรอยปากกาขีดแก้ไขจำนวนเงินด้วย จึงโทรศัพท์มาสอบถามตน เมื่อทราบข่าวจากทางผู้จัดการธนาคาร ธกส. ตนจึงเรียกปลัด อบต.และผอ.กองคลังมาสอบถามว่าทาง อบต.มีฎีกาที่เบิกจ่ายให้กับทางร้านดังกล่าวหรือไม่ ในจำนวนเงินมากถึง 4,446,164 บาท
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของอบต.โนนยอ แจ้งว่าสำหรับเช็คที่สั่งจ่ายเงินให้กับทางร้านนั้นตัวเลขที่สั่งจ่ายจริงเพียง 46,164 บาท เท่านั้น ตนจึงรีบติดต่อไปที่ธนาคาร ธกส.สาขาชุมพวง ว่าขออายัดเช็คสั่งจ่ายฉบับดังกล่าวทันที เพราะเช็คฉบับดังกล่าวน่าจะมีการปลอมแปลงตัวเลขและจำนวนเงิน จากนั้นจึงสั่งให้ตั้งกรรมการสอบสวนว่าใครเป็นคนนำเช็คฉบับดังกล่าวไปขึ้นเงินที่ธนาคาร
จากการสอบสวนทราบว่าคนที่นำเช็คไปขึ้นเงินคือ น.ส.จันทนีย์ จันทร์คำวงษ์ เจ้าพนักงานพัสดุของ อบต.โนนยอ นำเช็คดังกล่าวไปเข้าบัญชีเพื่อขอเบิกเงินกับทางธนาคาร ซึ่งน.ส.จันทนีย์เพิ่งย้ายมาทำงานที่ อบต.โนนยอ ได้แค่เดือนกว่าๆ เท่านั้น ภูมิลำเนาเป็นคนต.ดอนมัน อ.ประทาย จ.นครราชสีมา
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังจากมีการตรวจสอบและรวบรวมหลักฐานข้อมูลต่างๆ แล้วนายก้องเกียรติจึงไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา หลังจากนั้นมีการตรวจสอบเพิ่มเติมอีกพบว่าน.ส.จันทนีย์ ไม่ได้นำเฉพาะเช็คของ ธนาคาร ธกส.สาขาชุมพวง ไปขึ้นเงินเท่านั้น แต่ยังนำเช็คของธนาคารกรุงไทย สาขาประทาย ไปปลอมแปลงขึ้นเงินอีกจำนวน 2 ฉบับ โดยเช็คฉบับแรกไม่ทราบเลขที่เช็ค นำไปขึ้นเงินที่ธนาคารกรุงไทย สาขาพุทไธสง จ.บุรีรัมย์ โดยสั่งจ่ายในนาม หจก.ธนากรทวีทรัพย์ เป็นเงินจำนวน 400,000 บาท และเช็คฉบับที่สองเลขที่ 10056916 สั่งจ่ายให้บุคคลรายหนึ่ง เป็นเงินจำนวน 5,000,000 บาท สั่งจ่ายเมื่อวันที่ 19 ก.ค.
ซึ่งเช็คทั้ง 2 ฉบับ น.ส.จันทนีย์ดำเนินการเบิกเป็นที่สำเร็จเรียบร้อย โดยนายก้องเกียรติไม่ทราบเลยว่ามีการปลอมแปลงลายเซ็นในเช็ค เพราะคนที่มีอำนาจเซ็นอนุมัติออกเช็คมีอยู่ 3 คนคือนายกฯ, ปลัด และ ผอ.กองคลัง ต้องเซ็นชื่อร่วมกันทั้ง 3 คน
นายกฯอบต. กล่าวต่อว่า ไม่ทราบว่าเจ้าพนักงานพัสดุคนดังกล่าวแอบขโมยเช็คของธนาคารกรุงไทย สาขาประทาย ไปได้อย่างไร และตั้งแต่เมื่อไหร่ จนนำเช็คไปเข้าบัญชีบุคคลดังกล่าวได้ และเบิกเงินไปเป็นที่เรียบร้อย รวมเป็นเงินทั้งสิ้นที่น.ส.จันทนีย์เบิกไปได้ คือ 5,400,000 บาท ตนคิดว่าต้องมีคนในรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำครั้งนี้แน่นอน เพราะลำพังเจ้าพนักงานพัสดุคนเดียวคงไม่สามารถปลอมแปลงจนสามารถเบิกเงินออกไปได้มากขนาดนี้
หลังจากน.ส.จันทนีย์ทราบว่ามีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ชุมพวงเรียบร้อยแล้ว น.ส.จันทนีย์ก็ไม่มาทำงานอีกเลย โดยขับรถออกจากสำนักงานไปตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 21 ก.ค. จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มาทำงาน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ก.ค.หลังจากมีการรวบรวมหลักฐานต่างๆ ได้พอสมควรนายก้องเกียรติจึงเดินทางไปแจ้งความกับ ร.ต.อ.จาตุรงค์ เปลี่ยนผึ้ง รองสว.(สอบสวน) สภ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา เพื่อให้ติดตามตัวน.ส.จันทนีย์ มาดำเนินคดี
ด้าน ร.ต.อ.จาตุรงค์ เปลี่ยนผึ้ง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่นายก้องเกียรติ เข้ามาแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ พร้อมกับได้สั่งอายัดเช็คสั่งจ่ายของ ธกส.สาขาชุมพวง จำนวน 4,446,164 บาทไว้แล้ว
ส่วนเช็คอีก 2 ฉบับ ที่ฉบับหนึ่งนำไปขึ้นเงินกับธนาคารกรุงไทย สาขาพุทไธสง จ.บุรีรัมย์ จำนวน 400,000 บาท และฉบับที่ 2 สั่งจ่ายให้บุคคลรายหนึ่ง จำนวนเงิน 5,000,000 บาท ซึ่งดำเนินการสำเร็จแล้วนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารและหลักฐาน รวมทั้งเรียกสอบพยานและตรวจสอบหนังสือมอบอำนาจนิติบุคคลให้ครบถ้วนก่อน หลังจากนั้นภายในสัปดาห์นี้จึงออกหมายเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป