หนุ่มหึงโหดยิงเมียเก่าดับ ดอดมอบตัว น้องสาวลั่นไม่อโหสิกรรม เผยก่อนเลิกรายังซ้อมน่วมเข้ารพ. แถมไม่ส่งเสียลูกและออกค่าใช้จ่ายภายในบ้าน
จากกรณี นายยุทธวี อินทะริ อายุ 43 ปี ใช้อาวุธปืน 9 มม. บุกกระหน่ำยิง น.ส.วรรณดี ศรีไสย อายุ 34 ปี อดีตภรรยา จำนวน 7 นัด เสียชีวิตคาสวนยางพารา พื้นที่หมู่ 5 บ้านควนดินแดง ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 29 ก.ค สาเหตุเพราะความหึงหวง และเรื่องเงิน 2 แสนบาท โดยทั้งคู่มีลูกชายด้วยกัน 1 คน แต่เลิกรากันมา 3 ปีแล้ว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ก.ค. นายยุทธวี ผู้ก่อเหตุ ยอมเข้ามอบตัวกับตำรวจแต่โดยดี พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม. และรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ หลังจากตำรวจใช้เวลาสอบสวนนานเกือบ 4 ชั่วโมง โดยแจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งผู้ต้องหายอมรับผิดและยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา
จากการสอบถาม นายบัญชา อินทะริ พี่ชายของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า น้องชายสำนึกผิดขอเข้ามอบตัวเองโดยไม่ได้ติดต่อผ่านญาติหรือใครๆ ซึ่งยอมรับผิดและยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ขอไปรับโทษในคุก จะไม่สู้คดีหรือยื่นประกันตัว ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวนหรือในชั้นศาล เพราะกล้าทำก็กล้ารับ
นายบัญชา กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ยิงอดีตภรรยา เท่าที่คุยกันทราบว่า ไม่ได้ตั้งใจจะไปยิงภรรยา แต่จะไปหาบุคคลที่สามที่เข้ามาเกี่ยวพันกับภรรยาและเข้ามาอยู่ในบ้าน แต่ตอนที่ไปไม่แน่ใจว่าอยู่ในบ้านหรือไม่ ส่วนที่ก่อเหตุยิงภรรยาน่าจะมาจากบันดาลโทสะ แต่รายละเอียดในตอนเกิดเหตุนั้นไม่ทราบ ซึ่งน้องชายสำนึกผิดและอยากจะไปขออโหสิกรรมภรรยา แต่หากไปแล้วสถานการณ์อาจจะไม่เอื้ออำนวย และเป็นห่วงลูกชายวัย 13 ปี จึงฝากฝังให้ตนช่วยดูแลเป็นครั้งสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับศพของ น.ส.วรรณดี ญาติได้รับกลับมาจาก รพ.สงขลานครินทร์มาทำพิธีรดน้ำศพและบำเพ็ญกุศลศพที่ศาลาสว่างธรรมของหมู่บ้าน หมู่ 5 ต.เขาพระ และจะมีพิธีฌาปนกิจ วันที่ 2 ส.ค. สำหรับบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความอาลัยของญาติ โดยเฉพาะน้องเชน ลูกชายวัย 13 ปี ที่ยังคงเงียบขรึม ตาแดงก่ำ ไม่พูดไม่จากับใคร เพราะต้องสูญเสียแม่จากการกระทำของพ่อ 
ด้าน น.ส.วรรณา ศรีไสย อายุ 32 ปี น้องสาวของผู้ตาย กล่าวว่า เรื่องที่ผู้ต้องหาอ้างว่าพี่สาวมีชายอื่นมาติดพันนั้นไม่เป็นความจริง เพราะรู้จักกับผู้ชายคนนี้ไม่ถึง 2 เดือน และรู้จักกันทั่วไปไม่ได้เป็นแฟนเป็นอะไรกัน แต่คนพูดกันไปเรื่อยเปื่อย ส่วนเรื่องเงิน 2 แสนบาท ที่ฝ่ายชายเรียกร้องซึ่งเป็นเงินที่นำมาสร้างบ้านอยู่ด้วยกันนั้น ได้เรียกร้องตอนที่แยกทางกันเมื่อ 3 ปีก่อน แต่ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมาเรียกร้องเงินส่วนนี้ เพราะพี่สาวต้องเลี้ยงดูลูกคนเดียว ตอนอยู่ด้วยกันก็ไม่เคยดูแลลูกและค่าใช้จ่ายในบ้าน ตอนที่แยกทางกันก็ไม่ได้ส่งเสีย ก่อนแยกทางกันยังทำร้ายพี่สาวจนเข้าโรงพยาบาลและต้องแจ้งความ ทั้งยังกลับมาข่มขู่ สุดท้ายก็กลับมาฆ่า
น.ส.วรรณา กล่าวว่า แม้ผู้ต้องหายอมสำนึกผิด แต่ขอให้ไปชดใช้กรรมในคุกและอยู่ในนั้นตลอดชีวิตไม่ต้องออกมา หากรับโทษประหารได้ยิ่งดี และญาติๆ ไม่ขออโหสิกรรมให้ ส่วนญาติฝ่ายชายหากจะมาเคารพญาติก็ไม่ขัดข้อง แต่จะให้อภัยนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเคยบอกเคยเตือนไปหลายครั้งให้ช่วยตักเตือนฝ่ายชาย แต่สุดท้ายก็มาฆ่าพี่สาว ส่วนน้องเชน ทางญาติฝ่ายแม่จะช่วยกันดูแลและเด็กของต้องการอยู่กับตากับยายมากกว่า
ด้านน้องเชน กล่าวถึงพ่อสั้นๆ ว่า โกรธพ่อมากและจะไม่ให้อภัย
