เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่จังหวัดนครพนมยังไม่คลี่คลาย หลังน้ำอูนล้นเขื่อนที่อ.พังโคน ไหลหลากจากอ.พรรณานิคม และ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.นาหว้า ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจาก 3 อำเภอดังกล่าว เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนพื้นที่การเกษตร โดยพื้นที่ที่หนักสุดคือบ.อูนยางคำ หมู่ 11, 12, 13 ระดับน้ำท่วมสูงถึง 2 เมตร
ล่าสุดทางจังหวัดประกาศให้ อ.ท่าอุเทน และอ.โพนสวรรค์ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติต่อจาก อ.วังยาง อ.นาแก อ.เรณูนคร อ.นาหว้า อ.ศรีสงคราม รวม 7 อำเภอแล้ว เบื้องต้นมีราษฎรเดือดร้อน 1,000 ครัวเรือน นาข้าวได้รับผลกระทบกว่า 5 แสนไร่ ส่วน อ.วังยาง และ อ.นาแก ที่ได้รับผลกระทบก่อนนี้ ระดับน้ำเริ่มลดลง 50-60 เซนติเมตร แต่บางจุดยังมีน้ำท่วมขังสูงอยู่
นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าฯนครพนม กล่าวว่า ได้ประสานกับพล.ร.ต.วราห์ แทนขำ ผบ.นรข. หลังพบว่าน้ำอูนที่จะไหลลงแม่น้ำสงคราม ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่ปากแม่น้ำด้าน ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน ยังไหลลงช้า จึงขอสนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำจากกองทัพเรือจำนวน 35 ลำ เพื่อเร่งติดตั้ง 2 จุดบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำสงครามช่วงบ้านปากอูน-ศรีสงคราม และสะพานข้ามน้ำอูนใกล้เทศบาล ต.ศรีสงคราม เสร็จในช่วงเช้าวันนี้แล้วเพื่อเร่งผลักดันมวลน้ำให้ลงสู่แม่น้ำโขง
พล.ร.ต.วราห์ กล่าวว่า เรือผลักดันน้ำจำนวน 35 ลำลำเลียงมาจากกองทัพเรือที่กรุงเทพฯ โดยเรือ 1 ลำจะสามารถผลักดันน้ำได้เร็วขึ้น 1 แสนลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวัน ซึ่งใน 35 ลำที่ติดตั้งจะช่วยให้น้ำไหลเร็วขึ้น 3.5 ล้านลบ.ม.ต่อวัน คาดว่ามวลน้ำที่ยังท่วมใน อ.นาหว้า อ.โพนสวรรค์ และ อ.ศรีสงคราม จะไหลลงสู่น้ำโขงได้หมดไม่เกิน 7 วัน
วันเดียวกัน พล.ร.อ.ลือชัย สุดดิษฐ์ เลขาธิการทหารเรือ เดินทางมาตรวจความพร้อมจุดใช้เรือผลักดันน้ำที่ บริเวณสะพานข้ามน้ำอูน-แม่น้ำสงคราม บ้านนาเพียง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม หลังจากติดตั้งเครื่องพร่องน้ำเสร็จตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ เพื่อเปิดเครื่องผันน้ำให้ไหลระบายลงสู่แม่น้ำโขงโดยเร็ว
