เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเกิดเหตุเรือบรรทุกทรายขนาดใหญ่ พุ่งเข้าชนกระชังปลาในแม่น้ำเจ้าพระยา ของชาวบ้าน ม.3 ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับความเสียหาย จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบกระชังปลาดุกของนายกิตติ ธารีบุญ อายุ 55 ปี ที่เลี้ยงเอาไว้หน้าบ้านเลขที่ 7 ม.3 ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พังได้รับความเสียหาย ปลาดุกกว่า 2,000 ตัว หายไปในแม่น้ำเจ้าพระยา เหลือปลาดุกเพียงไม่กี่ตัว

นายกิตติ กล่าวว่า ตนเองเลี้ยงปลาดุกไว้กว่า 2,000 ตัว ใกล้ที่จะจับขายได้หากขายได้จะเป็นเงินประมาณ 25,000 บาท วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 10.00 น.วันที่ 13 ส.ค. ได้ยินเสียงเรือยนต์เร่งเครื่องจึงออกมาดูเห็นเรือบรรทุกทรายพุ่งเข้ามาที่บ้าน ชนกระชังปลาอย่างแรง จนกระชังปลาเสียหาย จากนั้นเรือยนต์ที่ลากจูงเรือบรรทุกทรายมาดึงเรือบรรทุกทรายขับออกไป ตนรีบขับรถยนต์ไปที่สะพานเพื่อสอบถามว่า จะชดใช้หรือไม่ทางเรือทรายบอกว่า จะกลับม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อกลับมาเลย จึงเดินเข้าแจ้งความกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกับนำคลิปวีดีโอเหตุการณ์ที่นางนวพรรณ แสงจันทร์ไทย อายุ 60 ปี เจ้าของร้านอาหาร ครัวคุณนาย ซึ่งอยู่ติดกัน ถ่ายคลิปเหตุการณ์เอาไว้เป็นหลักฐาน

นางนวพรรณ กล่าวว่า ร้านอาหารของตนเองและชาวบ้านบริเวณนี้จะต้องลุ้นระทึกทุกครั้งที่มีเรือบรรทุกทราย วิ่งผ่านหน้าบ้านในช่วงฤดูน้ำหลาก เป็นช่วงโค้งและมีมีกระแสน้ำไหลแรง เรือจะพุ่งเข้ามาที่หน้าร้าน ทุกวัน ทุกครั้งที่เรือบรรทุกทรายมาต้องเตรียมถ่ายคลิปไว้เลยเพราะต้องมีเสียวแน่ วันเกิดเหตุมีลูกค้าเข้ามารับประทานอาหารเต็มร้าน พร้อมทั้งมีพระจากวัดเสนาสนาราม อ.พระนครศรีอยุธยา ที่นิมนต์มาฉันเพลอยู่ด้วย ต้องกระโดดหนีกันจ้าละหวั่น

“ในรอบเดือนที่ผ่านมาพุ่งเข้ามาจนชนบ้านเสียหาย รวมถึงน้ำยังกัดเซาะตลิ่งพังเสียหายอีก และที่ร้านเคยเคยถูกเรือบรรทุกทรายเสียหลักพุ่งเข้ามาชนเสียหายมาแล้ว จนต้องแจ้งความกันยังชัดใช้ความเสียหายกันไม่หมดเลย เราเข้าใจว่าเป็นเหตุสุดวิสัย แต่ผู้ประกอบการจะต้องมีการป้องกันและระมัดระวังให้มากกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยให้ชาวบ้านอย่างเราต้องคอยหวาดผวาอยู่ตลอดเวลา และอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบหาทางป้องกัน ด้วยกันทำเขื่อนป้องกันตลิ่งพังให้ชาวบ้านด้วย” นางนวพรรณ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน