อาพี่สาวผอ.สาวหายตัวหวั่นภัยมืดยื่นคำร้องขอรับความคุ้มครองจากยุติธรรมศรีสะเกษ ขณะที่เพื่อนสนิทผอ.สาวเผยชายแต่งกายคล้ายทหารหลายคนมาวนเวียนแล้วจอดรถนั่งดูหน้าบ้านหลายครั้งกลัวว่าจะได้รับอันตราย

กรณีน.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผอ.กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. รวมระยะเวลาแล้ว 1 เดือนเศษ อีกทั้งยังไม่มีวี่แววว่าจะพบตัว ต่อมา ร.อ.ศุภชัย ภาโส นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน บก.ภ. จ.ศรีสะเกษ รับทราบ 4 ข้อกล่าวหา แต่นายทหารคนดังกล่าวได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ล่าสุด ชุดสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ ลุยป่าเขต อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อค้นหาร่องรอยของ น.ส.จุฑาภรณ์ หลังพบสัญญาณโทรศัพท์มือถืออยู่ในบริเวณดังกล่าวเป็นจุดสุดท้าย โดยระดมค้นหาในป่าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่คาดว่าจะเป็นที่ซ่อนตัวของน.ส.จุฑาภรณ์ กว่า 5 วัน แต่ก็ยังไม่พบ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ส.ค. ที่บ้านเลขที่ 65 บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ น.ส.หมายปอง อุ่นอ่อน อายุ 39 ปี พี่สาวของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ ที่หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยนายบัวกัน อุ่นอ่อน ผู้ใหญ่บ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย ซึ่งเป็นอาของน.ส.จุฑาภรณ์ ได้เดินทางไปที่สำนักงานยุติธรรม จ.ศรีสะเกษ ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 อาคารที่ว่าการ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อยื่นหนังสือขอรับความคุ้มครองตามกฎหมาย ให้กับครอบครัวของตนและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

เนื่องจาก ขณะนี้พวกตนหวั่นเกรงว่า อาจจะได้รับอันตรายจากกลุ่มคนร้ายที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มคนมีสี โดยในช่วงหลายวันที่ผ่านมามีคนแปลกหน้าเข้ามาที่หมู่บ้านของตนเยอะมาก และมีลักษณะท่าทางที่ไม่น่าไว้วางใจ อีกทั้งพวกตนมั่นใจว่าคนร้ายที่ลักพาตัวน.ส.จุฑาภรณ์น้องสาวของตนไปจะต้องมีหลายคน อาจจะลอบเข้ามาทำร้ายตนและครอบครัวก็ได้ ซึ่งเพื่อความปลอดภัยจึงมาขอรับความคุ้มครองเพื่อให้สำนักงานยุติธรรม จ.ศรีสะเกษ ส่งเจ้าหน้าที่ไปให้ความคุ้มครองดูแลความปลอดภัยให้ด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของสำนักงานยุติธรรมจ.ศรีสะเกษ ชี้แนะแนวทางการปฏิบัติต่างๆ ให้ทราบแล้ว

ด้านเพื่อนสนิทของน.ส.จุฑาภรณ์ อายุ 44 ปี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงวันที่ 15-16 ส.ค. ที่ผ่านมา ช่วงที่ตนปิดร้านและกำลังจะขึ้นรถหน้าร้านเพื่อที่จะเดินทางกลับบ้าน ปรากฏว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายทหารหลายคน ขับขี่รถยนต์เข้ามาและจอดหน้าร้านของตน จากนั้นนั่งจ้องมองดูตนและสามี นานประมาณ 2 นาที ก่อนขับรถออกไป

วันต่อมาก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์ชุดเดิมกลับมาอีก ซึ่งตนจำหน้าได้อย่างชัดเจน รวมทั้งเลขทะเบียนรถด้วย จึงโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บึงมะลู ทราบ เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลความปลอดภัยให้ ตนมีความหวาดกลัวอันตรายจากภัยมืดเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าตนเป็นคนที่ไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กรณีที่น.ส.จุฑาภรณ์ เพื่อนของตนที่หายตัวไปอย่างเงื่อนงำนานกว่า 1 เดือนแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ ปรากฏว่านายบัวกัน อาของน.ส.จุฑาภรณ์ ที่เป็นคนนำนายบุญเลิศพ่อของน.ส.จุฑาภรณ์ ไปติดตามคดีนี้มาตั้งแต่ต้นนั้น เกิดความเครียดอย่างหนัก เนื่องจากหวั่นเกรงว่า จะมีอันตรายจากภัยมืดและมีความเป็นห่วงหลานสาวของตนที่หายตัวไปเป็นอย่างมาก จนเกิดอาการวิงเวียนหน้ามืด ลูกชายรีบนำตัวส่งไปยังรพ.กันทรลักษ์ แพทย์วัดความดันแล้ว ผลปรากฏว่า ความดันขึ้นสูงถึง 196 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งอยู่ในเกณฑ์สูงมาก แพทย์ฉีดยาให้ 3 เข็ม จากนั้น ให้ยามากินที่บ้านเพื่อรักษาตัวเองต่อไป ขณะนี้อาการของนายบัวกันค่อยยังชั่วแล้ว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน