ชาวประมงพบซากพะยูนเพศเมียท้องแก่ใกล้คลอด ลอยตายเกยตื้นที่บริเวณปากอ่าวบ้านปากคลอง ม.9 ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง เตรียมผ่าพิสูจน์ซากพะยูนอย่างละเอียด สำหรับปีนี้พบพะยูนตายเป็นตัวที่ 4 ในรอบปี 2559 สาเหตุน่าจะมาจากคลื่นลมในทะเลมีความแปรปรวน

201610121547393-20041020163933

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. นายวิทยา มากนคร เจ้าหน้าที่ช่างเครื่องเรือส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล รับแจ้งจากส.อ.ธีรศักดิ์ บุญญา อายุ 25 ปี ชาวประมงพื้นบ้านตำบลบ่อหินว่า พบพะยูนลอยอยู่ที่บริเวณปากอ่าวบ้านปากคลอง ม.9 ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่พร้อมกับนำซากพะยูนที่เกยตื้นไปไว้ที่ สถาบันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมทร.ศรีวิชัยวิทยาเขตตรัง

201610121547392-20041020163933

เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลได้ตรวจสอบพบว่า เป็นซากพะยูนเพศเมีย อายุประมาณ 30-40 ปี ความยาวประมาณ 266 เซนติเมตร ขนาดรอบตัวประมาณ 212 เซนติเมตร และน้ำหนักประมาณ 350 กิโลเมตร สภาพซากสด คาดว่าตายมาแล้วไม่เกิน 2 วัน สภาพภายนอกมีรอยแผลขีดข่วนเล็กน้อย ท้องขยายใหญ่และมีน้ำนมไหลออกมาจากเต้านม คาดว่าน่าจะท้องแก่ใกล้คลอด

201610121547394-20041020163933

จากการสอบถาม สัตวแพทย์หญิงนัตติญา สังข์ศิริ นายสัตวแพทย์ประจำสถาบันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มทร.ศรีวิชัยวิทยาเขตตรัง กล่าวว่า สำหรับสาเหตุการตายยังไม่สามารถระบุชัดเจนได้ในตอนนี้ แต่เนื่องด้วยจากที่พะยูนมีลักษณะน่าจะท้องแก่ เพราะมีน้ำนมไหลออกมา ซึ่งปกติธรรมชาติของพะยูนจะท้องอยู่ประมาณ 12-14 เดือน และตัวนี้อาจจะเป็นช่วงท้ายๆ ของการตั้งครรภ์แล้ว

ทั้งนี้ ในสาเหตุทั่วไปที่พะยูนตายอาจจะเป็นเพราะพะยูนตั้งครรภ์ และด้วยตัวพะยูนเองมีภาวะอ่อนแอ และมีลูกในท้อง แล้วในช่วงนี้ตรังมีลมมรสุมเข้ามาซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีวาฬเกยตื้นเช่นกัน ทั้งนี้ จึงต้องรออีก 1 สัปดาห์ จะมีสัตวแพทย์จากภูเก็ตมาช่วยกันผ่าชันสูตรในการหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่นำซากพะยูนมาเก็บรักษาไว้ในห้องเย็น เพื่อรักษาสภาพไว้ที่สถาบันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มทร.ศรีวิชัยวิทยาเขตตรัง เพื่อรอการผ่าพิสูจน์ซากพะยูนอย่างละเอียดต่อไป สำหรับปีนี้พบพะยูนตายเป็นตัวที่ 4 ในรอบปี 2559

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน