ตามล่าได้ครบแล้วทั้ง 7 ปิกอัพปล้นไปทำคาร์บอมบ์ รวมทั้งรถของผัวเมียที่โดนชิงคันแรก แล้วนำไปบุกก่อเหตุ ส่วนอีกคันนำไปคาร์บอมบ์ถล่มบ้านพักตร.มายอ เดชะบุญไม่มีใครเป็นอะไร กอ.รมน.สรุปคนร้ายราว 10 คน เริ่มจากชิงรถผัวเมียนำไปปล้นเต็นท์รถ โดนจนท.จับตาย 1 ศพ ตรวจสอบประวัติไม่เคยก่อเหตุที่ไหนมาก่อน คาดเป็น กลุ่มหน้าใหม่ “บิ๊กป้อม” ลั่นอหังการมาก ขณะที่ “บิ๊กโด่ง” ยอมรับลงมืออย่างคาดไม่ถึง คนร้ายพลิกแพลงวิธีการก่อเหตุ ส่วน “บิ๊กเจี๊ยบ” เผยจับผู้ต้องสงสัยแล้ว 4
จากเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายบุกก่อเหตุปล้นชิงรถกระบะในเต็นท์รถที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เพื่อจะนำไปประกอบวัตถุระเบิดคาร์บอมบ์พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งจับเจ้าของเต็นท์รถและพนักงานรวม 4 คนไปด้วย แล้วยิงเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 1 คน หนีมาได้ 2 คน ต่อมาเจ้าหน้าที่สกัดจับ และจับตายคนร้าย 1 ศพ อีกทั้งระหว่างไล่ล่า รถ 1 คันที่ถูกปล้นไปคนร้ายได้วางระเบิดสกัดกลางทาง เจ้าหน้าที่บาดเจ็บหลายนาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 17 ส.ค. ขณะที่ทหารร้อย ร.1521 จำนวน 8 นาย ลาดตระเวนถนนบ้านบาราโหม-คลองมานิง ต.คลองมานิง อ.เมือง จ.ปัตตานี พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน ฆท 3327 กทม. หนึ่งในรถที่คนร้ายปล้นไปจอดทิ้งอยู่บริเวณโรงสูบน้ำชลประทาน บ้านคลองมานิง
จากนั้นนายวีรนันทร์ เพ็งจันทร์ ผวจ.ปัตตานี พร้อมด้วยพล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ปัตตานี และ พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี นำกำลังเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ แต่ไม่พบวัตถุต้องสงสัยหรือวัตถุระเบิดซุกซ่อนแต่อย่างใด ก่อนเคลื่อนย้ายมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป
ต่อมาเวลา 04.00 น. พ.ต.อ.สมปราช กรรณกานนท์ ผกก.สภ.มายอ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุระเบิดที่บริเวณบ้านพักตำรวจ สภ.มายอ จึงนำกำลังรุดไปที่เกิดเหตุพบซากรถกระบะถูกแรงระเบิดพังทั้งคัน และบ้านพักตำรวจเสียหาย 10 หลัง แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จากการตรวจสอบทราบว่าคาร์บอมบ์เป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน บห 5714 สงขลา หนึ่งในรถที่ถูกคนร้ายปล้นมาแล้วนำมาประกอบวัตถุระเบิดแสวงเครื่องบรรจุดในถังแก๊ส น้ำหนัก 80 ก.ก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร โดยก่อนเกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนขับ มาจาก อ.ยะรัง มาจอดหน้าบ้านพักตำรวจ ระหว่างนั้นตำรวจเฝ้าเวรยามเห็นจึงไล่ให้ไปจอดที่อื่น คนร้ายวิ่งหนีเข้าไปในหมู่บ้าน ไม่ถึง 2 นาทีรถก็ระเบิดสนั่นหวั่นไหว
รายงานข่าวแจ้งว่า จากเหตุรุนแรงดังกล่าว พล.ต.จตุพร และ พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพบว่ากลุ่มคนร้ายวางแผนอย่างเป็นระบบและเป็นขั้นเป็นตอน แยกเป็นชุดปล้น ชุดประกอบระเบิด กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุทาง เจ้าหน้าที่ไม่มีประวัติหรือข้อมูลมาก่อน เชื่อว่า หลายคนน่าเป็นกลุ่มคนร้ายหน้าใหม่
ส่วนการตรวจสอบประวัติหนึ่งในคนร้ายที่ถูกวิสามัญฯ ทราบชื่อ นายนูร์ฮาซัน อาแว อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/2 บ้านแบรอ จะรัง หมู่ 2 ต.ตะลุโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาแห่งหนึ่งใน อ.เมืองปัตตานี หลังจากนี้เจ้าหน้าที่เตรียมเชิญผู้บริหารโรงเรียนมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติและพฤติกรรมของผู้ตาย อีกทั้งตรวจสอบว่าเชื่อมโยงกับใครบ้าง เพื่อใช้เป็นเบาะแสติดตามจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุที่เหลือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเต็นท์รถในพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี พบหลายแห่งปิดให้บริการเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำซ้อน ขณะที่นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผวจ.ปัตตานี สั่งการนายอำเภอทั้ง 12 อำเภอ จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตรวจสอบจำนวนเต็นท์รถมือสอง พร้อมกำชับให้เจ้าของระมัด ระวังและสอดส่องสิ่งผิดปกติ
ขณะเดียวกัน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวชี้แจงสรุปเหตุการณ์ว่า เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 16 ส.ค. คนร้ายประมาณ 10 คน แต่งกาย เลียนแบบเจ้าหน้าที่ปล้นชิงรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า รุ่นธันเดอร์ สีเงิน ทะเบียน บง 8378 นราธิวาส ที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พร้อมจับตัวสามีภรรยาไว้ และปล่อยตัวในเวลา 14.00 น. โดยไม่ถูกทำร้ายแต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 11.30 น. คนร้ายนำรถกระบะไปก่อเหตุปล้นรถยนต์จากเต็นท์รถวังโต้คาร์เซ็นเตอร์ อ.นาทวี จ.สงขลา จำนวน 6 คัน พร้อม จับเจ้าของเต็นท์รถและพนักงานไปด้วยรวม 4 คน ต่อมาภายหลังใช้อาวุธปืนยิงใส่เสียชีวิต 1 ราย คือนายสหรัฐ แหละหนิ อายุ 19 ปี, ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายประธานพร นวลละมุน อายุ 23 ปี และไม่ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ นายธานีศักดิ์ ยี่จีน อายุ 53 ปี และนาย จิรศักดิ์ รัตนพันธ์ อายุ 37 ปี
พ.อ.ปราโมทย์กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ พล.ท. ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งการตั้งด่านตรวจและจุดสกัดทุกเส้นทาง และปะทะบริเวณด่านตรวจเกาะหม้อแกง เป็นเหตุให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย คือ นายนูร์อาซัน อาแว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/2 บ้านแบรอจะรัง หมู่ 2 ต.ตะลุโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ตรวจยึดอาวุธปืนพก 1 กระบอก และตรวจพบรถที่ถูกปล้นไปแล้ว 6 คัน เหลือ 1 คัน คือรถกระบะยี่ห้อมาสด้า รุ่นธันเดอร์ สีเงิน ทะเบียน บง 8378 นราธิวาส จึงขอความร่วมมือช่วยกันตรวจสอบสอดส่องดูแลรถคันดังกล่าว หากพบเบาะแสขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ หรือสายด่วน 1341 ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตำรวจ กล่าวสรุปรถที่คนร้ายปล้นชิงไปทั้งหมด 7 คัน เริ่มจาก รถกระบะยี่ห้อมาสด้า รุ่นธันเดอร์ สีเงิน ทะเบียน บง 8378 นราธิวาส ปล้นมาจากสามีภรรยาใน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ก่อนไปก่อเหตุปล้นรถอีก 6 คัน คือ 1.รถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน ทะเบียน บฉ 7182 ยะลา พบแล้วที่ อ.เทพา จ.สงขลา ไม่พบคนร้ายและระเบิด 2.รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ทะเบียน บธ 4063 พัทลุง พบแล้วที่ด่านเกาะหม้อแกง อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และเจ้าหน้าที่วิสามัญฯ คนร้าย 1 ศพ
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า 3.รถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน ถศ 3050 กทม. พบแล้วที่ อ.โคกโพธิ์ ไม่พบคนร้ายและระเบิด 4.รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ วีโก้ สีดำ ทะเบียน กอ 4995 สงขลา เป็นคันคาร์บอมบ์ที่สะพานยาบี อ.หนองจิก จ.ปัตตานี 5.รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีทอง ทะเบียน บห 5714 สงขลา พบแล้วหลังถูกนำไปคาร์บอมบ์ที่บริเวณหน้าบ้านพัก สภ.มายอ จ.ปัตตานี แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ 6.รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นไฮแลนเดอร์ สีขาว ทะเบียน ฆท 3327 กทม. พบแล้วที่ ต.คลองมานิง อ.เมือง จ.ปัตตานี ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบรถกระบะของสามีภรรยาแล้ว จอดทิ้งไว้บริเวณสวนยาง หมู่ 3 ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า เป็นการกระทำที่อหังการมาก หลังเกิดเหตุสกัดจับจนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิม กลุ่มเก่า ชี้ตัวผู้ต้องหาได้ 4 คน ที่ผ่านมาเราเตรียมการดีอยู่แล้ว ในพื้นที่ จ.ปัตตานี จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส จนทำให้ผู้ก่อเหตุเปลี่ยนมาก่อเหตุที่ อ.เทพา จ.สงขลา แทน
ส่วน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม กล่าวว่าต้องเป็นคนจ้องก่อเหตุรุนแรงคิดวิธีก่อเหตุที่พลิกแพลงไปเรื่อยๆ ครั้งนี้เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง ขออภัยบางพื้นที่มีช่องโหว่ ช่องว่าง ที่ผู้ก่อเหตุหาจังหวะลงมือทำ แม้เจ้าหน้าที่พยายามอุดช่องว่าง แต่ผู้ก่อเหตุก็สามารถทำได้ เพราะจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ จ.สงขลา มีพื้นที่กว้าง
“ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิมๆ อย่างบีอาร์เอ็น ก็มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเชื่อมโยงกลุ่มที่อยู่นอกวงกระบวนการพูดคุยสันติสุข ทั้งนี้ นายกฯ กำชับไปยังพล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยให้ดูแลเรื่องนี้ เพราะอาจมีคนตกหล่นและอยู่นอกวงพูดคุย ดังนั้น ต้องเชิญเข้ามาพูดคุย จะมีประโยชน์มากขึ้นในการแก้ปัญหาพื้นที่” รมช.กลาโหมกล่าว
ที่กองบัญชาการกองทัพบก(บก.ทบ.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. กล่าวว่าเป็นเรื่องใหม่ เพราะไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้ ผู้ก่อเหตุพยายามพลิกแพลงสถานการณ์ไปตามรูปแบบ โดยใช้วิธีการที่เราไม่คาดคิด เจ้าหน้าที่พยายาม วางมาตรการป้องกันอยู่แล้ว แต่พื้นที่กว้าง อาจดูแลได้ไม่สมบูรณ์ พล.อ.ประวิตรโทรศัพท์ มาสั่งการให้เร่งรัดคลี่คลายสถานการณ์โดยไว และทราบว่าได้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว 4 คน
ต่อข้อถามถึงการเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 4 พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า คงไม่ใช่สถานการณ์แบบนี้ว่าจะต้องเปลี่ยน หรือไม่เปลี่ยน เพราะมีปัจจัยอื่นอีกมาก แต่ขอชื่นชมแม่ทัพภาคที่ 4 ทำงานดี โดยเฉพาะด้านการข่าว กลไกการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ใช่แม่ทัพ ภาคที่ 4 เพียงคนเดียว และเรื่องนี้ไม่ใช่ความรับผิดชอบของแม่ทัพภาคที่ 4 ไม่เกี่ยวกัน อย่าไปมองจุดเล็กๆ เพียงจุดเดียว
มีรายงานข่าวจากชุดสืบสวนแจ้งว่า จากการสอบสวนพยานทำให้เจ้าหน้าที่รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว เบื้องต้นมี 7 คน ในจำนวนนี้ 2 คนปิดบังใบหน้า เจ้าหน้าที่เตรียม ออกหมายจับ 4 คน หลังพยานชี้ตัวยืนยัน และจากการสอบปากคำผู้รอดชีวิต 3 คน ระบุว่าคนร้ายขับรถกระบะมาจอดหน้าเต็นท์รถ และกรูเข้ามาจับกุม 4 คน จับมัดมือมัดเท้า โดยเฉพาะคนร้ายที่ถูกยิงเสียชีวิตเข้าไปทำร้ายนายประทานพร นวลละมุน บังคับเอากุญแจรถ 6 คันมาให้ และทยอยกันขึ้นรถขับออกไป
พยานระบุว่าคนร้ายขับรถไปจอดริมถนนในสวนยาง บ้านควนหินเภา ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา และคนร้ายมีเพียงคนเดียว ก่อนลาก 4 คนลงจากรถ จับตัวนายประทานพรรัดคอ แต่นายประทานพรทำทีสลบ คนร้ายยิงบริเวณไหล่ นายประทานพรแกล้งตาย คนร้ายใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงศีรษะนายสหรัฐ แหละหนิ ส่วนนายธานีศักดิ์ ยี่จีน เจ้าของเต็นท์รถ กับนายวีระศักดิ์ รัตน์พันธ์ พนักงานเต็นท์วิ่งหนี คนร้ายถอยรถกระบะทับร่างนายประทานพรให้แน่ใจว่าเสียชีวิต แต่โชคดีที่เบี่ยงตัวหลบทัน คนร้ายรีบขับรถออกไป เพราะมีชาวบ้านได้ยินเสียงปืนจึงออกมาช่วยเหลือ
